[bigglive's diary] EP4 "ประสบการณ์สุดมันส์กับการเรียน Skill Driving กับ สื่อสากล"
ถ้าพูดถึงเรื่องของการขับรถหลายคนบอกว่าธรรมดาและยังไงก็ขับได้ถ้าสอบใบขับขี่ผ่าน แต่สำหรับผมเอง ซึ่งได้ไปเรียนขับรถระดับที่เรียกว่า "ทักษะขับรถ" ก็ทำให้ความคิดนั้นเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง และมันจะมีดีอะไร ครั้งนี้ตอบขอบคุณ เพื่อนผมที่บังเอิญให้ไปเรียนขับรถกับสื่อสากล ผู้ผลิตนิตยสาร รถยนต์ชั้นนำ และ รายการทดลองมากมาย เอาล่ะ ผมได้อะไรจากการเรียนครั้งนี้ มาฟังคำบอกเล่าสั้น ๆ กันดีกว่า


เป็นเรื่องที่หลายคนบอกว่า ขึ้นรถออกได้เลย แต่ความจริงท่าขับรถนั้นสำคัญมาก เพราะหากเกิดอุบัติเหตุ ถ้าเราไม่ปรับตำแหน่งพวงมาลัย เบาะนั่งไม่เหมาะสม ก็จะทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ โดยครูฝึกได้บอกว่า การปรับเบาะนั้นและพวงมาลัยต้องอยู่ในตำแหน่งที่แขนหย่อนเล็กน้อน ขาต้องเหยียบเบรกสุดได้พอดี ถึงจะเหมาะสม และแต่ละคันก็ปรับความสูงอะไรได้ก็ควรจะปรับให้เหมาะสมด้วยเช่นกัน
ผมว่าเรื่องง่าย ๆ แค่นี้ก็ช่วยให้เราปลอดภัยบนท้องถนนมากขึ้นแล้วครับ

รถยนต์ที่ไปขับในการเรียนครั้งนี้ มีหลายแบบมากเช่น ขับหน้า, ขับหลัง และขับสี่ โดยผมได้เรียนด่าน Over Steer ก่อนเพราะเป็นด่านที่ต้องใช้รถขับหลัง ซึ่งครูฝึกได้บอกว่ารถทุกประเภทก็มีโอกาสเกิดได้ ซึ่งข้อดีของการเรียนแบบนี้ หากรถคุณหมุนก็แก้อาการได้,

ด่านต่อมากับ Under Steer กับรถขับสี่ ทำให้รู้ว่ามันเกิดถ้าเราขับเร็วไป แต่เรามีวิธีจัดการแค่ยกคันเร่ง ไม่กดเบรกเพื่อให้ท้ายปัดเท่านั้นเอง แต่ทั้งหมดต้องดูว่ามาเร็วแค่ไหนด้วย

ด่านสุดท้าย กับการเรียน Lane Change และ หักหลบสิ่งกีดขวาง เป็นอะไรที่พูดเลยว่าเจอบ่อยมาก แต่บางครั้งก็มีหลบพลาดก็มี แต่สำหรับหลบสิ่งกีดขวางกลายเป็นด่านที่ทำได้ถนัดสุด แต่พูดเลยว่า อาการของรถที่เกิดคือจะเสียอาการแล้วไปทิศทางที่เราไม่ต้องการ แต่ถ้าเราได้เรียนรู้และฝึกฝนก็จะทำให้เราปลอดภัยนั่นเอง นี่ยังไม่นับขับรถทำ Hot Laps ที่เร็วมาก ๆ อีกนะ

ทั้งเรื่องการหักหลบ, อาการรถเสียอาการ เป็นสิ่งที่ชีวิดจริงไม่มีโอกาสได้เจอแน่นอน การเรียนเลยทำให้รู้ว่าอาการเป็นอย่างไรทำให้ปรับตัวได้ นอกจากนี้ยังมีการฝึกขับรถทำเวลาได้เช่นกัน



สุดท้าย รถยนต์ที่ขับนั้น มีตั้งแต่ Mercedes Benz ทั้ง C-Class, ซีดาน, เปิดประทุน, SLC, ซูบารุ ฟอร์เรสเตอร์ และสุดท้าย Honda BR-V ที่บ้าน ๆ แต่พอความจริงนั้น เป็นรถที่ขับดีใช้ได้อีกคันเลย ถือว่าประสบการณ์ดีมาก ถ้าชอบสุด แน่นอน SLC ครับ อิอิ
จริง ๆ มีเยอะกว่านี้ แต่ด้วยเวลาที่การเรียนต้องจบลงทำให้พูดเลยว่า อยากเรียนอีกรอบ ใครสนใจที่อยากจะไปเรียนโครงการนี้ก็มีค่าใช้จ่ายที่ 3,900 บาท แต่พูดเลยว่า มันเจ๋งจริง ๆ ครับผม อันนี้ไม่ได้ค่าโฆษณาอะไรทั้งสิ้นนะครับคุณผู้อ่านที่เคารพ ^^
ทักษะก่อนขับรถ


เป็นเรื่องที่หลายคนบอกว่า ขึ้นรถออกได้เลย แต่ความจริงท่าขับรถนั้นสำคัญมาก เพราะหากเกิดอุบัติเหตุ ถ้าเราไม่ปรับตำแหน่งพวงมาลัย เบาะนั่งไม่เหมาะสม ก็จะทำให้เกิดการบาดเจ็บได้ โดยครูฝึกได้บอกว่า การปรับเบาะนั้นและพวงมาลัยต้องอยู่ในตำแหน่งที่แขนหย่อนเล็กน้อน ขาต้องเหยียบเบรกสุดได้พอดี ถึงจะเหมาะสม และแต่ละคันก็ปรับความสูงอะไรได้ก็ควรจะปรับให้เหมาะสมด้วยเช่นกัน
ผมว่าเรื่องง่าย ๆ แค่นี้ก็ช่วยให้เราปลอดภัยบนท้องถนนมากขึ้นแล้วครับ
รู้จักอาการของรถ

รถยนต์ที่ไปขับในการเรียนครั้งนี้ มีหลายแบบมากเช่น ขับหน้า, ขับหลัง และขับสี่ โดยผมได้เรียนด่าน Over Steer ก่อนเพราะเป็นด่านที่ต้องใช้รถขับหลัง ซึ่งครูฝึกได้บอกว่ารถทุกประเภทก็มีโอกาสเกิดได้ ซึ่งข้อดีของการเรียนแบบนี้ หากรถคุณหมุนก็แก้อาการได้,

ด่านต่อมากับ Under Steer กับรถขับสี่ ทำให้รู้ว่ามันเกิดถ้าเราขับเร็วไป แต่เรามีวิธีจัดการแค่ยกคันเร่ง ไม่กดเบรกเพื่อให้ท้ายปัดเท่านั้นเอง แต่ทั้งหมดต้องดูว่ามาเร็วแค่ไหนด้วย

ด่านสุดท้าย กับการเรียน Lane Change และ หักหลบสิ่งกีดขวาง เป็นอะไรที่พูดเลยว่าเจอบ่อยมาก แต่บางครั้งก็มีหลบพลาดก็มี แต่สำหรับหลบสิ่งกีดขวางกลายเป็นด่านที่ทำได้ถนัดสุด แต่พูดเลยว่า อาการของรถที่เกิดคือจะเสียอาการแล้วไปทิศทางที่เราไม่ต้องการ แต่ถ้าเราได้เรียนรู้และฝึกฝนก็จะทำให้เราปลอดภัยนั่นเอง นี่ยังไม่นับขับรถทำ Hot Laps ที่เร็วมาก ๆ อีกนะ
ทำสิ่งที่บนถนนจริงก็ทำไม่ได้ (แต่มีโอกาสใช้สูง)

ทั้งเรื่องการหักหลบ, อาการรถเสียอาการ เป็นสิ่งที่ชีวิดจริงไม่มีโอกาสได้เจอแน่นอน การเรียนเลยทำให้รู้ว่าอาการเป็นอย่างไรทำให้ปรับตัวได้ นอกจากนี้ยังมีการฝึกขับรถทำเวลาได้เช่นกัน
ได้ขับรถในฝัน ^^



สุดท้าย รถยนต์ที่ขับนั้น มีตั้งแต่ Mercedes Benz ทั้ง C-Class, ซีดาน, เปิดประทุน, SLC, ซูบารุ ฟอร์เรสเตอร์ และสุดท้าย Honda BR-V ที่บ้าน ๆ แต่พอความจริงนั้น เป็นรถที่ขับดีใช้ได้อีกคันเลย ถือว่าประสบการณ์ดีมาก ถ้าชอบสุด แน่นอน SLC ครับ อิอิ
จริง ๆ มีเยอะกว่านี้ แต่ด้วยเวลาที่การเรียนต้องจบลงทำให้พูดเลยว่า อยากเรียนอีกรอบ ใครสนใจที่อยากจะไปเรียนโครงการนี้ก็มีค่าใช้จ่ายที่ 3,900 บาท แต่พูดเลยว่า มันเจ๋งจริง ๆ ครับผม อันนี้ไม่ได้ค่าโฆษณาอะไรทั้งสิ้นนะครับคุณผู้อ่านที่เคารพ ^^
Post a Comment