รีวิว Huawei Mate 20 ปฐมบทของมือถือตระกูลท็อปที่คุ้มที่สุดในบ้าน Mate 20 Series

Rewire ในครั้งนี้อาจจะไม่ได้ย้อนกลับไปนานเท่าไหร่เพราะยังคงเป็นรีวิวตัวเก่าที่ผมเขียนไว้กับ Huawei Mate 20 รุ่นปกติทั่วไป ความสามารถของมือถือรุ่นนี้จะถูกใจและโดนใจคุณแค่ไหน เรามาดูกันในบทความนี้เลยดีกว่า




แรกเห็นรูปร่าง : เหมือน Mate 20 X ที่ย่อส่วน


it_mate20_010

ความรู้สึกแรกเหมือนกับมือถือรุ่นนี้คือการย่อ Huawei Mate 20 X ลงมาและปรับแต่งนิดหน่อย โดยหน้าจอมีขนาด 6.53 นิ้วความละเอียด 2240x1080 พิกเซล แต่ใช้หน้าจอแบบ IPS LCD แม้ว่าอาจจะไม่ได้สวยอะไรมากนัก แต่ก็มีความน่าใช้อยู่เพราะมันไว้ใจได้ มาพร้อมกล้องหน้า 24 ล้านพิกเซล พร้อมเซนเซอร์และมี LED แจ้งเตือนให้ด้านบน

side2

รอบตัวเครื่องออกแบบได้ลงตัวมีทั้งปุ่มปรับระดับเสียง, Power พร้อมคลิปแดง และมีช่องเสียบหูฟัง และ อินฟราเรด ด้านบน ไมโครโฟนมี 2 ตัวและลำโพงตัวเครื่อง นอกจากนี้ช่องชาร์จไฟอยู่ด้านล่าง

it_mate20_009

ด้านหลังเครื่องออกแบบได้อย่างดีมาพร้อมกับการตัดลายที่สวยงาม โดยเฉพาะสีน้ำเงินที่รีวิวนี้ แต่สำหรับรุ่นนี้เป็นรุ่นเดียวของ Mate 20 Series ที่มีสียอดฮิต Twilight มาให้เลือก(ในคลิปไม่ได้กล่าว) มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัวจาก Leica และมี LED Flash พร้อมกับระบบสแกนลายนิ้วมือมาให้ มี NFC ในรุ่นนี้ด้วย และเหมือนกับรุ่นบนๆ เช่นกัน แค่ไม่มี Wireless Charge เหมือนกับ Mate 20 Pro เท่านั้น

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ


mate20_ui

ในเรื่องพื้นฐานทั้งระบบปฏิบัติการ และ UI ก็เหมือนเดิมกับ Huawei Mate 20 X และ Pro อาจจะต่างกันในเรื่องความปลอดภัยและฟีเจอร์บางสิ่งเท่านั้น แต่ภาพรวมจะใกล้กับ Huawei Mate 20 X มากกว่า

mate20_fe

ระบบเสียงก็ยังคงให้ Dolby ATMOS และมีลำโพงคู่ด้านหน้าที่เสียงดังฟังชัด และแก้ปัญหาของ Mate 20 Pro ที่ลำโพงล่างจะไม่ดังเมื่อเสียบ USB-C เพราะแยกลำโพงออกมานั่นเอง และข่าวดีคือมี FM Radio

it_mate20_002

IMG_20181117_102842

IMG_20181117_104203

IMG_20181117_133517

IMG_20181118_183047

แต่ความเปลี่ยนแปลงคือกล้องหลังที่ให้ความละเอียดไม่เหมือนกันได้แก่ 12 ล้านพิกเซลแบบปกติ F1.8 ตัวนี้ไม่ได้เปลี่ยนมาก แต่ตัวที่ 2 คือ Ultra Wide 16 ล้านพิกเซล และ 8 ล้านพิกเซล Tele Photos ภาพออกมาถือว่ายังทำผลงานได้ดี และลงตัว มี Master AI เปลี่ยนรูปแบบการถ่ายภาพได้อย่างดี และวิดีโอรองรับที่ 4K 60 FPS แต่ระบบกันสั่นทำงานได้ดีกว่า 30 FPS มากกว่า

it_mate20_003

IMG_20181117_121356

กล้องหน้าตัวเดิมกับ Mate 20 X คือ 24 ล้านพิกเซลมาพร้อมกับ Beauty Mode ที่ปรับได้เยอะและมีโหมดละลายหลังมาให้ด้วย ครบเครื่องแล้วสำหรับมือถือรุ่นนี้และสามารถเล่น AR Filter ได้

ประสิทธิภาพ

mate20_bench

it_mate20_012

ไม่ต้องพูดเยอะให้เจ็บคอสำหรับ Huawei Mate 20 เพราะได้ขุมพลังรุ่นล่าสุด Kirin 980 แถม RAM และ ROM ก็สเปคเดียวกับรุ่นบนอีกตางหากประสิทธิภาพเลยไม่ได้แตกต่างกันมาก เล่นเกมได้แน่นอน

it_re_r001

การรองรับเชื่อมต่อทำได้ทั้ง WiFi 802.11AC, Bluetooth 5.0, GPS และอื่นๆ โดยการทดสอบนั้นทำได้ดีหมด GPS แม้ว่าจะเป็นน้องเล็กแต่ก็ทำผลงานได้ดีเหมือนกัน

mate20_batt

it_mate20_013

แบตเตอรี่ยังคงอึดเหมือนเดิม โดยการใช้งานคราวนี้ลากไปถึงเที่ยงคืนผลที่ได้คือ แบตเตอรี่สามารถอยู่ได้นานจนกระทั่งหมดวัน ไม่ผิดหวังสำหรับมือถือรุ่นนี้และมี Super Charge มาให้ด้วยครับ

5 สิ่งที่ชอบ


  1. รูปลักษณ์สวยเหมือนรุ่นพี่
  2. ประสิทธิภาพแรงไม่ต่างกัน
  3. แบตฯอึดมาก
  4. กล้องยังคงถ่ายภาพได้ดี
  5. ราคาน่าจับจ้องมากกว่า


ข้อสังเกตที่ควรพิจารณา


  1. กันน้ำได้น้อยไปหน่อย
  2. ขาดฟีเจอร์ชาร์จไฟ 40W
  3. กล้องหลังไม่สามารถใช้ Hybrid Zoom ได้
  4. ไม่มี Wireless Charge


คุ้มค่าหรือไม่หากจะซื้อ Huawei Mate 20


it_mate20_009

กับราคาที่ตั้งที่ 24,990 บาท หรือบางคนบอกว่า 25,000 บาทมีทอนผมว่า สิ่งที่รุ่นนี้ให้มาไม่ได้ด้อยกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ทุกประการ จึงทำให้มือถือรุ่นนี้ก็เพียงพอสำหรับผู้ที่อยากได้มือถือรุ่นท็อปแต่ราคามิตรภาพ

และไม่มีปัญหาหน้าจอเพราะใช้ IPS LCD แม้ว่าจะเก่าแต่ก็เป็นของที่น่าเชื่อถือเสมอ คู่แข่งในกลุ่มนี้ก็จะมี Samsung Galaxy S9+, OPPO R17 Pro และอื่นๆ ที่มีราคาไล่กัน ถ้าเลือกตัวนี้แสดงว่าคุณให้ความสำคัญกับกล้องที่ไม่ต้องจ่ายแพงแต่ก็ได้ดีไม่แพ้ใครครับ

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.