รีวิว Samsung Galaxy Note 9 ทั้ง 512GB และ 128GB กับความตั้งใจช่วงปลายปี 2018 ในกลุ่มเรือธง
รีวิวครั้งนี้ขอย้อนเวลากลับไปหา Samsung Galaxy Note 9 สักหน่อยในฐานะเรือธง ก่อนรุ่นใหม่จะมาแทนในปลายปีนี้ ล่าสุดมีอัปเดตแล้วก็สามารถอ่านย้อนไปยังข่าว IT ได้ แล้ว Samsung Galaxy Note 9 ที่มี 2 สเปคแบบนี้ มันดีจริงหรือ เรามาดูรีวิวกันดีกว่า เพราะมีโปรโมชั่น Special Offer เผื่อใครสนใจไปซื้อกัน
Clip Unbox & Review รอบแรก
Clip Review หลังจากใช้งานสักระยะ
เมื่อเทียบกับสัดส่วนของตัวเครื่อง จะสั้นลงเล็กน้อย เป็นผลจากการใช้ส่วนของ Infinity Display 2.0 ขนาด 6.4 นิ้ว ทำให้เครื่องเล็กกว่า Galaxy Note 8 ลง จึงทำให้ตัวเครื่องจับได้ถนัดมือมากขึ้น แต่ความกว้างเพิ่มขึ้น และจอโค้งลดลง ทำให้เขียนเขียนด้วยปากกา S Pen ในความเห็นผมคือใช้งานได้ดีมากขึ้น
ขณะที่ทุกส่วนยังคงออกแบบลักษณะเดิมๆ จาก Galaxy Note 8 ทำให้บางคนบอกว่าตัวเครื่องมีหน้าตาเหมือนกันทั้งด้านข้างซ้ายขวา ช่องใส่ซิมด้านบน และด้านล่างที่มีช่องเสียบหูฟัง, USB-C พร้อมกับลำโพง และ S Pen ด้านล่าง แต่ขอบเครื่องมีการออกแบบใหม่ที่ด้านขึ้นและมีการใช้ Diamond Cut ให้สวยเลย
ส่วนกล้องหลังมี 2 ตัวเหมือนเดิมความละเอียด 12 ล้านพิกเซล แตกต่างเรื่องของระบบสแกนลายนิ้วมือที่อยู่ด้านล่าง และมี Flash ด้วย ภาพรวมของกล้องถือว่าลงตัวดีนะ แต่น้ำหนักของเครื่องหนักกว่าเดิมเพราะแบตเตอรี่ใหญ่ขึ้น
สำหรับสเปคของ Samsung Galaxy Note 9 มีความเหมาะกันทุกประการ เพียงแต่ว่ามีสิ่งที่แตกต่าง 2 เรื่องคือ RAM และความจำจะมีรุ่น 512GB / 8GB ที่ทำให้แตกต่าง อีกเรื่องคือ ระบบระบายความร้อนที่ดีขึ้น เพราะ Heat Sink มีขนาดใหญ่และช่วยให้ความร้อนสลายไปเร็วขึ้น ผลการทดสอบประสิทธิภาพไม่ได้แตกต่างอะไรมากนัก และใช้ Android 8.1 Oreo
และเรื่องการรองรับ 4G LTE รองรับในรูปแบบของความเร็วที่สูงขึ้น นอกจากนี้ยังได้เรื่องของ GPS, WiFi AC และ Bluetooth version 5
ส่วนแบตเตอรี่ของเครื่องมีขนาด 4000 mAh รองรับระบบ Quick Charge รวดเร็ว และมีระบบ Wireless Charge ความเร็วสูง แต่อาจจะไม่ได้เร็วเท่าไหร่
ถึงแม้ว่าปากกาของ Samsung Galaxy Note 9 จะมีหน้าตาเหมือนเดิมที่ลักษณะเหมือนกับ Galaxy Note 5 แต่ความละเอียดมากถึง Note 8 ที่ปรับความละเอียด 4096 ระดับ แต่เวอร์ชั่นนี้เพิ่มการเชื่อมต่อ Bluetooth ทำให้มีความสะดวกมากขึ้นไม่ว่าจะเป็น
ข้อดีมีมากมาย แม้ว่าแบตเตอรี่ของปากกา จะอยู่ได้ 30 นาที เท่านั้นแต่ข้อดีมันชาร์จไฟได้เร็ว ถ้าแบตฯหมด ก็สามารถวาดเขียนได้ตามปกตินะครับ เรียกได้ว่าสาระพัดประโยชน์นอกจากสั่งงาน และ วาดเขียนได้เช่นเคย
สำหรับสเปคกล้องของ Samsung Galaxy Note 9 มาพร้อมกับกล้องหลังคู่ขนาด 12 ล้านพิกเซล เลนส์ตัวแรกเป็น Tele Photo อีกเลนส์เป็นแบบ Dual Aperture แม้ว่าสเปคเครื่องจะเหมือนกับ S9+ เลย แต่มีเรื่องที่แตกต่างกันได้แก่
Intelligent Camera หรือการเปลี่ยนรูปแบบ Scene Mode และปรับสีภาพอัตโนมัติ ทำให้คุณถ่ายภาพได้ดีขมากขึ้น แม้ว่าการทำงานอาจจะต้องให้กล้องจับ วัตถุให้ลงตัวมากขึ้นเลยล่ะ
ส่วนการถ่ายวิดีโอ จุดนี้ผมขอชมเรื่องระบบโฟกัสที่ทำงานได้ขึ้นว่าเดิม และถ่ายวิดีโอ 4K 60 FPS
และกล้องหน้ามีขนาด 8 ล้านพิกเซล F1.7 ยังคงเหมือนกับ Galaxy S9 อยู่ดี
มาถึงในเรื่องที่ต้องปรับปรุงแล้วคงไม่แบ่งเป็นข้อๆ ส่วนใหญ่จะเรื่องของหน้าตาที่ยังคงไม่ได้แตกต่างจากเดิมเท่าไหร่แต่ผมว่า ยังดีที่จับได้ถนัดมือ ส่วนคะแนนประสิทธิภาพดูน้อยไปนิดหน่อย แต่การใช้งานผมว่าดีอยู่แล้ว และ ยังไม่มาพร้อมกับ Android Pie ทำให้รู้สึกว่าต้องรออัปเดตกันต่อไป
และความจุ 512GB RAM 8GB มีเฉพาะบางประเทศและมีเฉพาะการจอง
มาถึงส่วนสรุปแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy Note 9 ภาพรวมแม้ว่าสำหรับคนที่ใช้ Samsung Galaxy Note 8 จะดูไม่ได้แตกต่างกันมากนัก แต่ว่าเมื่อเทียบกันแล้ว จะมีหน้าจอ พร้อมกับกล้องและปากกา S Pen ที่ทำได้ดีมากขึ้น และรวมถึง Dex แบบใหม่ที่มีเฉพาะสายด้วย
ส่วนทั่วโลกจะมีความจุ 128GB พร้อมกับ RAM 6GB เท่ากับ S9+ ที่ราคาเท่าๆ กัน ความแตกต่างก็เหลือแค่ S Pen เท่านั้นเอง เอง สุดท้าย นี่คือมือถือรุ่นใหม่ที่น่าสนใจที่สุดอีกตัวหนึ่ง และใช้งานได้จริงมากขึ้น
แต่ต้องบอกก่อนว่าสำหรับคนที่อยากได้รุ่นความจำ 512GB และ RAM 8GB นั้นผมต้องขอแสดงความเสียใจด้วย เพราะว่าตอนนี้ยังไม่มีจำหน่ายเพิ่มหลังจากการเปิดสั่งจองล่วงหน้าผ่านทางออนไลน์ แต่ถ้าอยากได้ความจุเยอะจริง แนะนำว่า Samsung Galaxy Note 9 สามารถใส่ Micro SD สูงสุดที่ 512GB ก็ใช้ทดแทนได้ จริงๆ 128GB เพิ่มไปอีก 128GB ผมว่าเพียงพอนะ
Clip Unbox & Review รอบแรก
Clip Review หลังจากใช้งานสักระยะ
รูปร่างมันสั้นลงจริงหรือ
เมื่อเทียบกับสัดส่วนของตัวเครื่อง จะสั้นลงเล็กน้อย เป็นผลจากการใช้ส่วนของ Infinity Display 2.0 ขนาด 6.4 นิ้ว ทำให้เครื่องเล็กกว่า Galaxy Note 8 ลง จึงทำให้ตัวเครื่องจับได้ถนัดมือมากขึ้น แต่ความกว้างเพิ่มขึ้น และจอโค้งลดลง ทำให้เขียนเขียนด้วยปากกา S Pen ในความเห็นผมคือใช้งานได้ดีมากขึ้น
ขณะที่ทุกส่วนยังคงออกแบบลักษณะเดิมๆ จาก Galaxy Note 8 ทำให้บางคนบอกว่าตัวเครื่องมีหน้าตาเหมือนกันทั้งด้านข้างซ้ายขวา ช่องใส่ซิมด้านบน และด้านล่างที่มีช่องเสียบหูฟัง, USB-C พร้อมกับลำโพง และ S Pen ด้านล่าง แต่ขอบเครื่องมีการออกแบบใหม่ที่ด้านขึ้นและมีการใช้ Diamond Cut ให้สวยเลย
ส่วนกล้องหลังมี 2 ตัวเหมือนเดิมความละเอียด 12 ล้านพิกเซล แตกต่างเรื่องของระบบสแกนลายนิ้วมือที่อยู่ด้านล่าง และมี Flash ด้วย ภาพรวมของกล้องถือว่าลงตัวดีนะ แต่น้ำหนักของเครื่องหนักกว่าเดิมเพราะแบตเตอรี่ใหญ่ขึ้น
สเปคเหมือน S9+ จริงไหม
สำหรับสเปคของ Samsung Galaxy Note 9 มีความเหมาะกันทุกประการ เพียงแต่ว่ามีสิ่งที่แตกต่าง 2 เรื่องคือ RAM และความจำจะมีรุ่น 512GB / 8GB ที่ทำให้แตกต่าง อีกเรื่องคือ ระบบระบายความร้อนที่ดีขึ้น เพราะ Heat Sink มีขนาดใหญ่และช่วยให้ความร้อนสลายไปเร็วขึ้น ผลการทดสอบประสิทธิภาพไม่ได้แตกต่างอะไรมากนัก และใช้ Android 8.1 Oreo
และเรื่องการรองรับ 4G LTE รองรับในรูปแบบของความเร็วที่สูงขึ้น นอกจากนี้ยังได้เรื่องของ GPS, WiFi AC และ Bluetooth version 5
ส่วนแบตเตอรี่ของเครื่องมีขนาด 4000 mAh รองรับระบบ Quick Charge รวดเร็ว และมีระบบ Wireless Charge ความเร็วสูง แต่อาจจะไม่ได้เร็วเท่าไหร่
ปากกา S Pen สาระพัดประโยชน์ ใช้งานอย่างไร
ถึงแม้ว่าปากกาของ Samsung Galaxy Note 9 จะมีหน้าตาเหมือนเดิมที่ลักษณะเหมือนกับ Galaxy Note 5 แต่ความละเอียดมากถึง Note 8 ที่ปรับความละเอียด 4096 ระดับ แต่เวอร์ชั่นนี้เพิ่มการเชื่อมต่อ Bluetooth ทำให้มีความสะดวกมากขึ้นไม่ว่าจะเป็น
- สั่งกล้องถ่ายภาพจากปากกา ไม่ต้องถือให้เมื้อย
- สั่งบันทึกเสียง
- สั่งการหยุดหรือเล่นวิดีโอ
- สั่งใช้เลื่อน Slide Power Point ในการ Present แต่ไม่มี Pointer
- หรือจะสั่งเปิด Apps ที่ต้องการเป็นต้น
ข้อดีมีมากมาย แม้ว่าแบตเตอรี่ของปากกา จะอยู่ได้ 30 นาที เท่านั้นแต่ข้อดีมันชาร์จไฟได้เร็ว ถ้าแบตฯหมด ก็สามารถวาดเขียนได้ตามปกตินะครับ เรียกได้ว่าสาระพัดประโยชน์นอกจากสั่งงาน และ วาดเขียนได้เช่นเคย
กล้องเปลี่ยนแปลงอะไรและดีอย่างไร
สำหรับสเปคกล้องของ Samsung Galaxy Note 9 มาพร้อมกับกล้องหลังคู่ขนาด 12 ล้านพิกเซล เลนส์ตัวแรกเป็น Tele Photo อีกเลนส์เป็นแบบ Dual Aperture แม้ว่าสเปคเครื่องจะเหมือนกับ S9+ เลย แต่มีเรื่องที่แตกต่างกันได้แก่
Intelligent Camera หรือการเปลี่ยนรูปแบบ Scene Mode และปรับสีภาพอัตโนมัติ ทำให้คุณถ่ายภาพได้ดีขมากขึ้น แม้ว่าการทำงานอาจจะต้องให้กล้องจับ วัตถุให้ลงตัวมากขึ้นเลยล่ะ
ส่วนการถ่ายวิดีโอ จุดนี้ผมขอชมเรื่องระบบโฟกัสที่ทำงานได้ขึ้นว่าเดิม และถ่ายวิดีโอ 4K 60 FPS
และกล้องหน้ามีขนาด 8 ล้านพิกเซล F1.7 ยังคงเหมือนกับ Galaxy S9 อยู่ดี
ชอบอะไรใน Galaxy Note 9
- ขนาดของตัวเครื่องที่เล็กลงจับได้ง่าย
- แบตฯอึดขึ้น
- สเปคเครื่องที่ยังเร็วและตอบโจทย์ในการใช้งาน
- กล้องฉลาดและเร็วโฟกัสดี
- S Pen ใช้งานได้หลากหลายและน่าใช้มากขึ้น
อะไรที่ต้องปรับปรุงต่อใน Samsung Galaxy Note 9
มาถึงในเรื่องที่ต้องปรับปรุงแล้วคงไม่แบ่งเป็นข้อๆ ส่วนใหญ่จะเรื่องของหน้าตาที่ยังคงไม่ได้แตกต่างจากเดิมเท่าไหร่แต่ผมว่า ยังดีที่จับได้ถนัดมือ ส่วนคะแนนประสิทธิภาพดูน้อยไปนิดหน่อย แต่การใช้งานผมว่าดีอยู่แล้ว และ ยังไม่มาพร้อมกับ Android Pie ทำให้รู้สึกว่าต้องรออัปเดตกันต่อไป
และความจุ 512GB RAM 8GB มีเฉพาะบางประเทศและมีเฉพาะการจอง
บทสรุปของ Samsung Galaxy Note 9
มาถึงส่วนสรุปแล้ว สำหรับ Samsung Galaxy Note 9 ภาพรวมแม้ว่าสำหรับคนที่ใช้ Samsung Galaxy Note 8 จะดูไม่ได้แตกต่างกันมากนัก แต่ว่าเมื่อเทียบกันแล้ว จะมีหน้าจอ พร้อมกับกล้องและปากกา S Pen ที่ทำได้ดีมากขึ้น และรวมถึง Dex แบบใหม่ที่มีเฉพาะสายด้วย
ส่วนทั่วโลกจะมีความจุ 128GB พร้อมกับ RAM 6GB เท่ากับ S9+ ที่ราคาเท่าๆ กัน ความแตกต่างก็เหลือแค่ S Pen เท่านั้นเอง เอง สุดท้าย นี่คือมือถือรุ่นใหม่ที่น่าสนใจที่สุดอีกตัวหนึ่ง และใช้งานได้จริงมากขึ้น
แต่ต้องบอกก่อนว่าสำหรับคนที่อยากได้รุ่นความจำ 512GB และ RAM 8GB นั้นผมต้องขอแสดงความเสียใจด้วย เพราะว่าตอนนี้ยังไม่มีจำหน่ายเพิ่มหลังจากการเปิดสั่งจองล่วงหน้าผ่านทางออนไลน์ แต่ถ้าอยากได้ความจุเยอะจริง แนะนำว่า Samsung Galaxy Note 9 สามารถใส่ Micro SD สูงสุดที่ 512GB ก็ใช้ทดแทนได้ จริงๆ 128GB เพิ่มไปอีก 128GB ผมว่าเพียงพอนะ
Post a Comment