รีวิว Xiaomi Mi Note 10 Smart Phone เน้นกล้องสุดชีวิต กับเลนส์ 108 ล้านพิกเซล



ห่างหายกับบทความรีวิวมือถือนานพอสมควร กลับมาในคราวนี้กับ XIAOMI Mi Note 10 รุ่นปกติ มาดูกันว่า หลังจากลองมาพักใหญ่มาดูกันว่ามันประทับใจแค่ไหน มาดูกันดีกว่า


รูปร่างหน้าตาของ XIAOMI Mi Note 10



เริ่มต้นกับหน้าจอของ XIAOMi Mi Note 10 มาพร้อมกับขนาด 6.39 นิ้วความละเอียดหน้าจอ 2400x1080 พิกเซล พร้อมกับกล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล มีเซนเซอร์มากมายและระบบสแกนใบหน้าที่ทำงานได้ลงตัวพอสมควร นอกจากนี้ Notch สามารถสั่งปิดได้ ภาพรวมหน้าจอแบบ AMOLED ให้สีที่สดและสวยงาม บนสุดหน้าจอมีลำโพงสนทนา, และออกเสียงได้




รอบตัวเครื่องเป็นวัสดุดีมีคุณภาพพร้อมกับโครเมี่ยมที่สวยบงามแต่ฝั่งซ้ายไม่มีปุ่มควบคุมอะไร ส่วนฝั่งขวามีปุ่มปรับระดับเสียง, ปุ่ม สำหรับเปิด และ ปิดตัวเครื่อง พร้อมกับถาดใส่ซิมการ์ดแบบ Nano SIM




ส่วนบนมาพร้อมกับไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน, อินฟราเรดสำหรับสั่งเครื่่องใช้ไฟฟ้า ส่วนล่างมาพร้อมกับ USB-C และช่องเสียบหูฟัง



ด้านหลังออกแบบให้รับกับมือและเป็นกระจกเหมือนกับด้านหน้า มีกล้องทั้งหมด 5 ตัวครบครันพร้อมกับ LED Flash โลโก้ Xiaomi และมีให้เลือกทั้งหมด 3 สีสวยงามทุกสีตามท้องเรื่อง

ฟีเจอร์ที่โดดเด่น





ระบบปฏิบัติการของ XIAOMI Mi Note 10 ยังคงใช้ Android แต่เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด Android 10 มาพร้อมกับ MIUI 11 ใหม่ล่าสุดตกแต่างเรียบง่ายขยายทุกอย่างให้ใหญ่ขึ้นทำให้มันดูดีไม่น้อยเลยทีเดียว และมีระบบสแกนใบหน้าและ สแกนนิ้วมือมาให้



ส่วนในเรื่องฟีเจอร์ต่างๆ XIOAMI Mi Note 10 ยังคงมีเหมือนกับรุ่นปกติ แต่สำหรับ MIUI 11 จะมี Dark Mode มาให้เลือกใช้อยู่ ส่วนระบบเสียงถือว่าดังดีและหน้าจอมีโหมดให้เลือกหลากหลาย



กล้องหลังของ Xiaomi Mi Note 10 มาพร้อมกับกล้องหลัง 5 ตัวด้วยกันประกอบไปด้วย กล้องหลังหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล สามารถซูมได้ 50X ไม่แตกแต่ว่ามีเลนส์กล้องสามารถซูมได้ปกติถึง 5 เท่าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, 12 ล้านพิกเซลเลนส์ซูมปกติ 2 เท่า, Ultra Wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และ Marco ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ถือว่าเยอะ










ภาพถ่ายออกมาถือว่าสวยงามและสีสันจัดจ้านถ้าเปิด AI นั่นเอง แต่ถ้าไม่เปิดก็อาจจะจืดไปหน่อยแต่ก็ยังอยู่ในจุดที่รับได้



นอกจากนี้ในโหมดวิดีโอสามารถเก็บรายละเอียดได้ดีทั้งความละเอียดสูงสุด 4K 60 FPS และมีระบบกันสั่นมาให้ในตัว



ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ถือว่าลงตัวแล้วสำหรับการถ่ายภาพและวิดีโอด้วยกล้องหน้า

ประสิทธิภาพ





ในเรื่องของสเปก เป็น Qualcomm Snapdragon 730G ถือว่าสบายๆ ในเรื่องของการเล่นเกม ตอบสนองได้ดีและเป็น Android 10 และ MIUI ใหม่ทำให้เครื่องลดการหน่วงลงพอสมควรเลยทืีเดียวนอกจากนี้ในเรื่องของ ความจำผมว่าน่าจะมากกว่านี้อีกหน่อย ถ้าต้องการมากกว่านั้นคงต้องเป็น Mi Note 10 Pro แล้วล่ะ

การเชื่อมต่อครบทุกอย่างมีทุกอย่างให้คุณแล้ว ทำให้ไม่ต้องห่วงในการใช้งานแต่อย่างใดตั้งแต่ WiFi AC, Bluetooth 5.0, 4G LTE-A ครบครันเลยทีเดียว ส่วน GPS, A-GPS ทำงานได้ลงตัว



แบตเตอรี่คือเรื่องที่ดีงาม เพราะขนาด 5260 mAh รองรับที่ชาร์จ 30W ติดมาให้ในกล่องด้วย ทำให้แบตเตอรี่อึดราวๆ เกือบ 17 ชั่วโมง ดังนั้น Standby ถือว่าผ่านเลยครับ 2 วันสบายๆ แต่ถ้าใช้งานอาจจะอยู่ราวๆ 12 - 16 ชั่วโมง และเรื่องขาร์จไฟเร็วอย่างที่บอกไปตามสเปกของที่ชาร์จ

ความรู้สึกหลังทดลองใช้



สำหรับในเรื่องการทดลองความสามารถของตัวเครื่องถือว่าเป็นอีกมือถือที่ให้สเปกและรายละเอียดภาพรวมถือว่าดีขึ้นชัดเจนและนอกจากนี้กล้องครบและถ่ายภาพได้ ถึงแม้ในเรื่องของสีอาจจะสดเกินไปก็ตาม

แต่ว่าสิ่งที่ควรปรับปรุงคือน้ำหนักเครื่องที่มาก เกิดจากแบตเตอรี่อันนี้ให้ออภัย, หน้าจอโค้งบนที่ไม่มีฟีเจอร์อะไรเข้ามาเสริม และรวมไปถึงความจำไม่สามารถเพิ่มได้เท่านั้นเอง รวมถึงรุ่น Pro น่าจะอัปเกรด CPU ให้มากกว่านี้

คุ้มค่าหรือไม่หากจะเลือกซื้อ Xiaomi Mi Note 10



เมื่อลองมาแล้วตามความรู้สึกของมือถือรุ่นนี้จัดว่าน่าสนใจแต่ว่าราคาเครื่องเคาะที่ 16,990 บาทก็อาจจะมองว่าสูงไปหน่อยเมื่อเทียบกับสเปกที่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณต้องการมือถือที่เน้นการถ่ายภาพ รุ่นนี้คือคำตอบที่ใช้



แล้วถ้าคิดว่าต้องการสิ่งที่มีจากรุ่นนี้มันไม่พอแล้วล่ะก็ คงต้องเพิ่มไปเอา Xiaomi Mi Note 10 Pro จะเพิ่ม RAM 8GB, ความจำ 256GB และ เลนส์กล้องหลัก 108 ล้านพิกเซลเพิ่มอีก 1 ชิ้น ในราคา 19,990 บาท



ดังนั้นเลือกกันเองถ้าต้องการครบจบในตัวเดียว Mi Note 10 Pro ไปเลย แต่ถ้าไม่อยากจ่ายแพงและบริหารจัดการความจำได้ ต้องการเครื่องดีราคาไมแ่พงก็ Mi Note 10 ก็พอครับ

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.