คุณได้ใช้ประโยชน์จากสมาร์ททีวีอย่างเต็มที่หรือไม่


เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในตลาดโทรทัศน์เพราะโทรทัศน์รุ่นต่าง ๆ ได้กลายมาเป็นศูนย์กลางของระบบสมาร์ทโฮมแห่งใหม่ นอกจากจะเป็นแหล่งรวมความบันเทิงแล้ว สมาร์ทีวียังมีอินเตอร์เฟสที่ใช้งานง่าย โดยสามารถควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮมได้ทุกชิ้น เช่น ไฟ ระบบรักษาความปลอดภัย การสั่งงานด้วยเสียงและอื่น ๆ อีกมากมาย

เพื่อให้คุณได้ทราบรายละเอียดมากขึ้นว่าสมาร์ททีวีรุ่นล่าสุดสามารถทำอะไรได้บ้าง เราจึงได้ร่วมพูดคุยกับคุณ Mike Chang รองประธานกรรมการบริหารบริษัท MediaTek และผู้จัดการทั่วไปของกลุ่มธุรกิจสมาร์ทโฮม โดยบริษัท MediaTek เป็นผู้นำตัวจริงในธุรกิจสายนี้ และเป็นผู้ผลิตชิปเซ็ตอันดับ 1 ซึ่งผลิตชิปให้แก่โทรทัศน์ดิจิทัลทั่วโลก อีกทั้งยังทำงานใกล้ชิดกับแทบทุกแบรนด์โทรทัศน์ที่คุณรู้จัก ด้วยเหตุนี้ จึงมีโทรทัศน์กว่าสองพันล้านเครื่องที่ใช้ระบบของ MediaTek ทั่วโลก! 

MediaTek ได้นำประสบการณ์ความบันเทิงอันน่าตื่นตาตื่นใจมาสู่ผู้บริโภคมากว่าตลอด 20 ปี และกำลังเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมโทรทัศน์อันแปลกใหม่ ซึ่งรวมถึงการรองรับความคมชัดของภาพ UltraHD ระดับ 8K และ 4K  ระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ใช้ตรวจจับวัตถุในภาพ สนับสนุนการสั่งด้วยเสียง และในกระบวนการปรับปรุงคุณภาพรูปภาพแบบอัตโนมัติ

คำถาม : เราควรต้องคำนึงถึงคุณสมบัติของสมาร์ททีวีอะไรบ้าง

นอกเหนือจากคุณสมบัติมาตรฐานที่ควรคำนึงถึงแล้ว เช่น ค่าความละเอียดและค่าความอิ่มสี ผู้บริโภคควรจะต้องมองหาโทรทัศน์ที่มีคุณสมบัติอันล้ำสมัยดังนี้

  • ความสามารถของ AI: โทรทัศน์บางรุ่นมี AI แบบบิวท์อินมาอยู่แล้วซึ่งช่วยเพิ่มคุณภาพของการแสดงภาพด้วยการตรวจจับใบหน้าและฉาก จากนั้นจึงปรับความคมชัดและปรับคุณภาพของภาพให้ได้ภาพที่ดีที่สุด มากกว่านั้น เทคโนโลยี AI-Super Resolution (AI-SR) ยังเพิ่มความกระจ่างชัดในการแสดงภาพด้วยการแก้ปัญหาการจับค่าความละเอียดที่ผิดพลาด (Resolution Mismatch) ระหว่างคอนเทนต์ที่กำลังฉายอยู่กับพาแนลโทรทัศน์ (TV panel) โดยระบบนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่กลุ่มผลิตภัณฑ์โทรทัศน์ 4K   และระบบดังกล่าวยังทำงานได้ดีกว่าเทคโนโลยีการยกระดับความละเอียดแบบเดิมซึ่งต้องใช้เวลาประมวลผลนานกว่าในการจับค่าความละเอียดของภาพและหน้าจอโทรทัศน์ (TV Screen) ซึ่งจะทำให้เกิดเส้นบาง ๆ ปรากฏขึ้นที่หน้าจอ หรือภาพบิดเบี้ยวแบบต่าง ๆ ก็เป็นได้
  • การเชื่อมต่อ Wi-FI ขั้นสูง : เพื่อให้คุณสตรีมสิ่งที่คุณชื่นชอบได้ลื่นไหลไม่มีสะดุด คุณจึงต้องการการเชื่อมต่อที่เร็วและเสถียร ดังนั้นตอนนี้โทรทัศน์รุ่นใหม่จึงได้ผสานรวมมาตรฐาน Wi-Fi 6 รุ่นใหม่ที่จะทำให้คุณเชื่อมต่อได้ดียิ่งขึ้น
  • ความสามารถด้านอินเตอร์เฟสเสียง : การค้นหาภาพยนตร์ที่คุณชอบหรือวีดิโอ Youtube จะง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อนด้วยการใช้ความสามารถสั่งงานผู้ช่วยด้วยเสียง (Voice Assistant) ที่อยู่ในรีโมตสมาร์ททีวี ตอนนี้คุณก็เพียงแค่สั่งโทรทัศน์ว่าคุณอยากดูอะไรก็เท่านั้นเอง

คำถาม : MediaTek คิดค้นเทคโนโลยีอะไรบ้างเพื่อเพิ่มประสบการณ์การรับชมภาพที่ดีขึ้น

MediaTek has a suite of TV technologies, including UltraCast, MiraVision Pro and our MDDi™ deinterlace solution, along with our AI Picture Quality (AI PQ) and AI-Super Resolution (AI-SR) technologies. With all these different solutions and tech talk, let me break it down into features that consumers use and how it benefits them to have a TV powered by MediaTek.

MediaTek ได้คิดค้นกลุ่มเทคโนโลยีโทรทัศน์ที่มี UltraCast  MiraVision Pro และโซลูชัน Deinterlace ชื่อ MDDi™ พร้อมด้วยระบบ AI Picture Quality (AI PQ) และเทคโนโลยี AI-Super Resolution (AI-SR) แต่ด้วยมีโซลูชันที่แตกต่างกันและเป็นคำเฉพาะทางเทคโนโลยี ผมจึงขออธิบายคุณสมบัติต่าง ๆ ตามการใช้ของผู้บริโภคและผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์อย่างไรจากการใช้โทรทัศน์ที่มีเทคโนโลยีของ MediaTek

เทคโนโลยี UltraCast ของ MediaTek จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถสตรีมคอนเทนต์ที่มีความละเอียดภาพ 4K แบบไร้สายไปยังโทรทัศน์ที่รองรับความละเอียด 4K ได้ ผู้ใช้งานสามารถรับชมคอนเทนต์ความละเอียด 4K ได้ง่าย ๆ เพียงแค่ส่งภาพจากอุปกรณ์อื่นไปยังโทรทัศน์โดยไม่เสียคุณภาพของภาพหรือข้อมูลไป และนี่จะยิ่งทำให้การแชร์สิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวีดิโอที่คุณบันทึกเรื่องราวการพักร้อนของครอบครัวหรือวีดิโอที่ไวรัลที่คุณพลาดชมไม่ได้

เทคโนโลยี MiraVision Pro ของ MediaTek เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์กระบวนการปรับปรุงการแสดงภาพ โดยจะปรับคุณภาพภาพเพื่อแก้ความอิ่มสี ความสว่าง ความคมชัด อัตราความเร็วต่อเฟรม และอื่น ๆ อีกได้อย่างชาญฉลาด และเพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การสตรีมมิ่งที่ดียิ่งขึ้น MiraVision Pro ยังรวมเทคโนโลยี ClearMotion ของ MediaTek ซึ่งจะช่วยแปลงอัตราความเร็วต่อเฟรมให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งโซลูชัน De-interlace ทีชื่อว่า MDDi™ ของ MediaTek จะช่วยเพิ่มความกระจ่างให้แก่ภาพเพื่อให้คุณได้รับชมภาพที่สบายตา สดใส และสมจริงยิ่งขึ้น  โดยที่ MediaTek ยังเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการแสดงภาพระดับแนวหน้ามาตลอดหลายทศวรรษ อีกทั้งยังนำเทคโนโลยีด้านการแสดงภาพอันล้ำสมัยมาสู่อุปกรณ์นานาชนิด ซึ่งรวมถึง สมาร์ทโฟน แท็ปเล็ต แล็ปท็อป หน้าจออัจฉริยะ และที่ขาดไม่ได้เลยคือ โทรทัศน์ นั่นเอง

และเทคโนโลยีสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือระบบ AI ซึ่ง MediaTek กำลังนำไปใส่ไว้ในอุปกรณ์ทุก ๆ ชิ้นในระบบสมาร์ทโฮม ตั้งแต่ลำโพงอัจฉริยะจนถึงไมโครเวฟอัจฉริยะ อีกทั้งสมาร์ททีวีรุ่นล่าสุดอีกด้วย มากกว่านั้นเทคโนโลยี AI Picture Quality (PQ) ของ MediaTek จะทำให้คุณได้รับประสบการณ์การรับชมโทรทัศน์ที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  และด้วยกระบวนการปรับปรุงโดยระบบ AI แบบบิวท์อินนั้น สมาร์ททีวีจะสามารถวิเคราะห์ฉากและใบหน้าในเฟรมที่แตกต่างกันไปไม่ว่าคุณจะกำลังดูอะไรอยู่ก็ตาม จากนั้นจะปรับการแสดงผลโดยอัตโนมัติเพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์ที่สุด ตัวอย่างเช่น โทรทัศน์สามารถระบุฉากทิวทัศน์และปรับค่าความสว่างขึ้นหรืออาจจะปรับค่าสีผิวให้เหมาะสมเพื่อไม่ให้แสดงค่าความอิ่มสีที่มากเกินไป โดยทั้งหมดนี่เกิดขึ้นแบบเรียลไทม์ 

เทคโนโลยี AI-SR แบบบิวท์อินของ MediaTek จะช่วยเพิ่มความกระจ่างให้กับภาพทั้งหมด ลองคิดดูว่าในปี 2563 มียอดขายโทรทัศน์ UltraHD ราว ๆ 57 % แต่มีเพียงแค่ 17 % เท่านั้นที่การแสดงคอนเทนต์จะมีความละเอียดแบบ UltraHD  มากกว่านั้นผู้บริโภครอบโลกไม่ได้มีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตความเร็วที่ความเร็ว 25 Mbps หรือสูงกว่านั้น ซึ่งเป็นอัตราความเร็วที่แนะนำให้ใช้กับการสตรีมมิ่งคอนเทนต์ที่มีความละเอียดระดับ UltraHD  ด้วยเหตุนี้เทคโนโลยี AI-SR ของ MediaTek จะปรับค่าโทรทัศน์โดยอิงจากค่าความละเอียดที่ถ่ายทอดสัญญานมาและความเร็วอินเตอร์เน็ตของผู้ใช้แต่ละคน ซึ่งจะทำให้แสดงภาพได้คมชัด กระจ่างใส เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ความบันเทิงอันน่าภิรมย์

และเทคโนโลยีที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ได้รวบไว้ในชิปเซ็ต S900 ของ MediaTek ไว้แล้ว ซึ่งเป็นชิป SoC ของสมาร์ททีวี ที่รองรับค่าความละเอียดระดับ 8K รวมถึงการคำนวณที่ใช้การประมวลผลโดย AI ความเร็วสูง (Edge-AI Computation)  และยังรวมไว้กับชิปเซ็ต MT5670 ของ MediaTek ซึ่งรองรับ ความละเอียด 4K UltraHD ที่มีคุณสมบัติครบครันและภาพที่มีคุณภาพระดับสตูดิโอตัวจริง โดยชิปทั้งสองยังรองรับความสามารถด้านคำสั่งเสียงขั้นสูง ดังนั้นผู้ใช้จึงมีทางเลือกหลากหลายที่จะปฏิสัมพันธ์กับอุปกรณ์ของตนเองได้ มากกว่านั้นผู้พัฒนาสามารถใช้ NeuroPilot Software Development Kit (SDK) ของ MediaTek ที่ใช้งานได้กับระบบ Android Neural Networks API เพื่อสร้างอุปกรณ์สมาร์ทโฮมที่มีการเชื่อมต่อและทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ นั่นหมายความว่าสมาร์ททีวีสามารถทำงานได้เหมือนศูนย์กลางควบคุมอุปกรณ์อัจฉริยะของคุณได้ทั้งหมด คุณจึงสามารถหรี่ไฟหรือปิดสวิตช์เทอร์โมสตัทได้จากโซฟานุ่ม ๆ ที่คุณนั่งอยู่



คำถาม : แล้วทีวี 8K และ Wi-Fi 6 จะช่วยให้โทรทัศน์ดีขึ้นกว่าเดิมได้อย่างไร

โทรทัศน์ 8K มีค่าความละเอียดอันน่าทึ่งซึ่งมีค่าสูงกว่าโทรทัศน์ 4K ถึงสี่เท่า นับว่าเป็นการยกระดับความละเอียดให้แก่ผู้ชมอย่างแท้จริง และค่าความละเอียดสูงลิบเช่นนี้จะสามารถสร้างภาพบนจอได้คมกริบยิ่งขึ้น โดยจะเห็นพื้นผิวและความหนาแน่นได้ชัดเจน จนคุณรู้สึกได้ราวกับว่า ตัวละครแทบจะหลุดออกมาจากหน้าจอ อีกทั้งโทรทัศน์ 8K ที่วางขายในตลาดรุ่นล่าสุดก็ยังใช้ชิปเซ็ตของ MediaTek ด้วย นั่นรวมถึง โทรทัศน์ Skyworth Q91 8KTV ที่ใช้ชิปเซ็ต S900 ของ MediaTek พร้อมด้วยโทรทัศน์ยี่ห้อ Samsung รุ่น 8K QLED Y20 ที่ใช้ชิปเซ็ต Wi-Fi 6 ที่ออกแบบมาเฉพาะอีกด้วย

สมาร์ททีวีที่ใช้ Wi-Fi 6 จะทำให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์การสตรีมมิ่งและเกมมิ่งที่ดียิ่งขึ้นเพื่อยกกระดับประสบการณ์ความบันเทิง โดยระบบ Wi-Fi 6 จะทำให้การเชื่อมต่อเร็วขึ้น อีกทั้งยังเสถียรขึ้นเพราะมีพิสัยที่ดีกว่า พร้อมทั้งยังสามารถรองรับการใช้อุปกรณ์หลายเครื่องในเวลาเดียวกันได้ด้วย และด้วยโทรทัศน์จะกลายเป็นศูนย์กลางของระบบสมาร์ทโฮม เราจึงจำเป็นจะต้องมีการเชื่อมต่อด้วย Wi-Fi 6 ที่ฉับไวและไม่ล่าช้า

ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมานี้ เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่เราได้เห็นว่า ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสมาร์ททีวีได้มากขึ้นจากทุกแห่งหนได้อย่างไร อีกทั้งเทคโนโลยีล้ำสมัยเหล่านี้ เช่น ความละเอียด 8K จะก้าวออกจากโลกแฟนตาซีมายังห้องนั่งเล่นของพวกเราได้อย่างไร  เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะได้ปฏิวัติวงการสมาร์ทีวีต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อให้คุณได้ใช้ประโยชน์จากโทรทัศน์ของคุณอย่างเต็มที่ 

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.