รีวิว ROBOROCK S7 สุดยอดหุ่นยนต์ดูดฝุ่นครบเครื่อง และน่าใช้งานไม่เบา



Roborock ถือว่าเป็นผู้ผลิตเครื่องดูดฝุ่นโดยเฉพาะกลุ่มของ Robot แม่บ้านที่จัดหนักจัดเต็มในเรื่องการทำความสะอาดมาช้านาน รอบนี้ได้เปิดตัว Roborock S7 แน่นอนว่าผมเองก็ไม่พลาดที่จะนำมาทดลองให้คุณได้ชมกัน สำหรับภาคนี้จะเป็นบทความ เรามาดูกันว่า ความสามารถกับราคาของมันจะคุ้มค่าจริงแค่ไหน

มาดูดีไซน์กันดีกว่า




Roborock S7 จะมีหน้าตาที่สวยงามและคล้ายกับ S6 MaxV ที่ได้เปิดตัวก่อนหน้านี้ ช่วนปุ่มด้านบนจะมีการสั่งงานจากตัวเครื่องได้ และมี Child Lock ป้องกันเด็กมายุ่ง เพียงกดปุ่มฝั่งซ้ายไว้ 5 วินาที (ปลดล็อคก็กดปุ่มเดียวกัน) โดยส่วนประกอบต่างๆ นั้นเหมือนกัน แล้วถ้าจะมีอะไรแตกต่างกับรุ่นที่แล้ว คือ 1 ถาดเก็บขยะลดลง ทำให้ แปรงปัดในรุ่น S7 ไม่มีนั่นเอง 

ถาดใส่น้ำเล็กลงแต่ว่ามีการใช้งานน้ำที่มีประสิทธิภาพกว่ารุ่นเดิมแบบเห็นได้ชัด และนอกจากนี้ยังมีแปรงปัดด้านหน้าที่มีความหนากว่าและทำให้ปัดได้สะอาดมากขึ้น

อีกจุดที่แตกต่างกันเลยคือกล้องด้านหน้า S7 จะใช้เซนเซอร์ LiDAR ที่ทำให้มองทุกอย่างเป็นภาพ กับจุดไหนที่เข้าไปด้หรือไม่ได้ก็ตามสามารถมองได้หมดจากตรงนี้ 





และนอกจากนี้แผนรองตัวถูยังสามารถยกตัวเองขึ้นลงได้ โดยจะกดลงและสั่นสะเือนทำให้การทำความสะอาดนั้นทำได้ดีมากขึ้น 

ส่วนการเข้าที่ชาร์จยังมีหน้าตาเหมือนเดิมคือแถบสีเงินทั่วไป

ฟีเจอร์ / การใช้งานของ ROBOROCK S7


Application ของ Roborock S7 จะมีชื่อว่า Roborock โดยเราจะต้องโหลดผ่าน App Store และ Google Play Store นั่นเอง แต่ว่าหุ่นยนต์จะเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ในคลื่นความถี่ 2.4GHz เท่านั้น ข้อดีของคลื่นแบบนี้คือ ระยะทางที่ใช้งานได้ไกลกว่าและทะลุทะลวงได้เร็วกว่า แต่ไม่มีปัญหากับการใช้งานสั่งงานนอกบ้านครับ




การทำงานของ Application นั้นเครื่องจะแสดงผลห้องได้ ทั้งนี้ Roborock S7 สามารถจดจำห้องได้มากถึง 9 ห้องด้วยกัน และสามารถตั้งค่าต่างๆ ได้เช่น

  • การทำงานของ Edit แผนที่เช่นไม่ต้องการถูก, ไม่ต้องเข้าไป หรือ กั้นเขตได้
  • ปรับเรื่องของรูปแบบการดูดและการถูก หรือจะเป็น Deep Cleaning ซึ่งจะไม่ดูดฝุ่นเน้นถูเท่านั้น
  • การปรับในเรื่องของการทำงานที่เงียบ หรือบอกว่าส่วนไหนคือพรมได้
  • ปรับเสียงการพูดกับเราเป็นภาษาต่างๆ มีภาษาไทยแล้ว


นอกจากนี้ยังมีการบอกว่าหุ่นยนต์ทำงานได้อยู่หรือไม่ แถมยังบอกเปอร์เซนต์ของแบตเตอรี่ และนอกจากนี้ยังสามารถดูว่าเซนเซอร์สะอาดขนาดไหน และ แบตเตอรี่ว่ามันเหลือเท่าไหร่


โดยแบตเตอรี่จากได้ที่ทดลองใช้งานจริง สามารถทำความสะอาดได้นานถึง 5 - 6 ชั่วโมงเลยแต่ทุกครั้งนี้ทำความสะอาดเสร็จตัวมันเองจะกลับ Dock เพื่อชาร์จไฟได้

ความรู้สึกหลังใช้งาน


จากการทดลองใช้งานเรียกได้ว่าเป็นตัวเครื่องจะมีโหมด Carpet Mode ยกตัวเองได้เมื่อเจอพรม, พร้อมกับโหมดดูดที่ดูดลึกมากพอสมควร และเหมาะกับคนที่ต้องการทำความสะอาดที่ล้ำลึก
แต่ถ้าเข้ากับ Google Assistant ได้ก็จะดีนะ แต่ไม่แน่ อนาคต อาจจะต่อกันได้นะครับ และชอบที่การใช้งานยาวนานและสั่งงานนอกบ้านได้แบบไม่หน่วงเลย

คุ้มค่าไหมถ้าจะซื้อ


Roborock S7 มีราคาเปิดตัวที่ 39,990 บาท ฟังดูสูงไปแต่จริงๆ ก็มีโปรโมชั่นลดลงมาเหลือ 23,990 บาท ถ้าใครที่รักการทำความสะอาดแต่ชอบเทคโนโลยี นี่ก็เป็นอีก 1 นวัตกรรมที่อยากให้คุณได้ลองเพราะตอนนี้ก็ไปดูตัวจริงที่โชว์รูมได้ แต่สั่งออนไลน์จะถูกกว่าครับ

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.