รีวิว Nokia 7 Plus มือถือ เรือธงที่ใช้ Android One ที่เข้าทางกำลังดี
ในงาน Mobile World Congress ที่ผ่านมา HMD ได้เปิดตัวมือถือ 5 รุ่นมากมาย แต่สำหรับการรีวิวครั้งนี้ผมขอนำเรือธงที่เข้าไทยก่อนตัวแรกอย่าง Nokia 7 Plus มาก่อนและมีอะไรที่ตื่นเต้นกับครั้งนี้และการบ้านแก้หรือยังเมื่อเทียบกับ Nokia 8 มาดูกัน
แรกเห็นรูปร่าง
เริ่มจากด้านหน้าที่เด่นตรงหน้าจอขนาด 6 นิ้วความละเอียด Full HD+ (2160x1080) และใช้หน้าจอแบบ IPS LCD ที่มีความคมชัดและสู้แสงได้ดี นอกจากนี้ ยังได้กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซลและใช้เลนส์ Zeiss อีกด้วย
ด้านข้างออกแบบได้สะดุดตากับสีนี้ที่มีขอบเป็นสีทอง Rose Gold สวยงาม พร้อมกับฝั่งซ้ายมีช่องใส่ซิมแบบ Nano SIM, Hybrid Slot (Nano SIM ใบที่ 2 หรือ Micro SD) ฝั่งขวามีปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่มเปิดปิดเครื่อง
ด้านบนมีช่องเสียบหูฟัง พร้อมไมโครโฟนตัวที่ 2 ด้านล่าง มีช่องเสียบ USB-C ลำโพงและไมโครโฟนของเครื่อง
ด้านหลังเครื่องเป็นพลาสติกพร้อมกับเลนส์กล้องคู่จาก Zeiss ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลแบบเลนส์คู่, Flash คู่, ระบบสแกนลายนิ้วมือ และโลโก้ Nokia แนวนอน ที่ทำให้ดูแล้วไม่ได้ฉีกหนีจากพี่น้องร่วมค่ายเท่าไหร่
คุณสมบัติที่น่าลอง
เป็นครั้งแรกที่โนเกียพูดเต็มปากเต็มคำว่าใช้ Android One เป็นโครงสร้างหลัก พร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo และมีลูกเล่นที่น่าสนใจนอกจาก Apps ของ Google เช่น การบอกปริมาณของอุปกรณ์เชื่อมต่อ Bluetooth และมีระบบสแกนลายนิ้วมือเป็นต้น นอกนั้นก็ไม่มีอะไรมาก
กล้องของ Nokia 7 Plus มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซลทั้ง 2 ตัว ต่างที่รูรับแสง 1 ตัวเป็น F1.7 และอีกตัวเป็น F2.6 ทำให้การซูมภาพ 2 เท่าและมีฟีเจอร์ EIS และการซูมทำให้ภาพนั้นคมชัด พร้อมกับโหมดถ่ายภาพมากมายรวมถึงโหมด Dual Camera (Blothie) ถ่ายภาพได้ ทั้งกล้องหน้าและหลังพร้อมกัน วิดีโอ 4K FPS ที่สำคัญเป็นเลนส์ Zeiss
ส่วนกล้องหน้านั้นให้มาถึง 16 ล้านพิกเซล เลนส์ Zeiss เหมือนกัน พร้อมกับรูรับแสง F2.0 ถือว่าดีใช้ได้และมี Beauty Mode และ โบเก้ให้เบาๆ
ประสิทธิภาพของ Nokia 7 Plus
Spec Model | Nokia 2 |
CPU | Quadcomm Snapdragon 660 Octa Core 2.2 + 1.8GHz |
GPU | Adreno 512 |
RAM | 4GB |
Intenal Storage | 64GB |
External Storage | Micro SD 256GB |
ความถี่ 2G | GSM 850/900 / 1800 /1900 |
ความถี่ 3G | HSDPA 850 / 900 / 1900 / 2100 |
ความถี่ 4G | LTE Cat6 300/50 Mbps |
WiFi | 802.11 b/g/n/AC |
Bluetooth | V5.0 |
กล้องหน้า | เลนส์ Zeiss 16 ล้านพิกเซล |
กล้องหลัง | เลนส์ Zeiss 12 (F1.8) + 12 (F2.6) ล้านพิกเซล Auto Focus + LED Flash คู่ |
Display | 6 นิ้ว LTPS LCD ความละเอียด 2160x1080 |
OS | Android 8.1 |
NFC | YES |
Battery | 3800mAh |
เมื่อพิจารณากับสเปกและ Benchmark ทื่ออกมาถือว่าเป็นเรื่องที่รับได้และการทำงานถือว่าดีเยี่ยม เมื่อใช้งาน แต่ว่าอาจจะเห็นว่า ถ้าไม่ใช่ Android One อาจจะทำอะไรได้ไม่ดีเท่านี้
การจับสัญญาณบอกตำแหน่งทำได้ดีและแม่นยำ แต่อาจจะมีหน่วงและช้านิดหน่อยแต่เป็นจุดที่รับได้
และแบตเตอรี่มีขนาด 3800 mAh ผลการทดสอบออมาถือว่าทนทานใช้งานได้ทั้งวัน อาจจะมีข้อบกพร่องตรงเดียวคือ ระบบ Quick Charge ยังไม่เร็วเท่าไหร่
5 สิ่งที่ชอบในตัว Nokia 7 Plus
- การทำงานของ Hardware ภาพรวมถือว่าแม่นยำดี
- บอดี้ของเครื่องสวยมาก
- Android One ไม่ต้องห่วงเรื่องอัปเกรด
- ลูกเล่นกล้องและคุณภาพ ฝากฝังได้เลย
- ครบทั้งเคสและทุกอย่างในกล่อง
- บอดี้อาจจะดูเหมือนกับ Nokia 8 ไปหน่อย
- ฟีเจอร์เด็ดไม่มีให้เห็นเท่าไหร่
- ไม่มี FM Radio
คุ้มค่าหรือไม่สำหรับ Nokia 7 Plus
ถ้ามองถึงมือถือราคา 13,990 บาท ที่ตอบโจทย์ในเรื่องการทำงานของเครื่องที่ต้องเป็น Pure Android หรือ Android One และยังได้กล้องที่คุณสมบัติดี ถ่ายภาพสวย ละลายหลังดี Optical Zoom ได้ คงต้องบอกว่าครบเครื่องสุดคงเป็น Nokia 7 Plus ถึงแม้สเปคเครื่องอาจจะไม่เหมาะกับคำว่า เรือธง แต่ถ้ามองถึงราคาเครื่อง นี่เป็นตัวเลือกที่ผมว่าคุ้มค่าแล้วในตอนนี้
ใครที่สนใจก็อย่าลืมไปจับจองเป็นเจ้าของกัน ส่วนคู่แข่งนั้นเยอะเหมือนกัน แต่ที่สัมผัสมาถือว่าสู้ได้ไม่ต้องห่วง และเลือกโดยไม่มองใครก็ไม่เสียหายแน่นอน เพียงแต่ว่า ถ้าลูกเล่นอื่นๆ ที่ดูแพงกว่านี้ อาจจะตอบโจทย์ไม่ได้ เท่านั้นเอง แต่อย่างว่า Apps มีให้โหลด ก็โหลดแทนก็ได้นะ
Post a Comment