รีวิว Huawei P20 Pro กล้องเทพสุดบนมือถือปี 2018

ภายหลังที่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในตลาดโลกและคาดว่าจะพร้อมจำหน่ายช่วงปลายเดือนนี้สำหรับมือถือที่ได้รับตำแหน่งกล้องเทพที่สุดของปี 2018 อย่าง Huawei P20 Pro วันนี้ผมเองก็ได้ทดลองทุกด้านของเครื่องรุ่นนี้พร้อมบอกเล่ากับคุณ เอาล่ะมาดูกันเลยดีกว่าสำหรับรีวิว Huawei P20 Pro

แรกเห็นรูปร่างของ Huawei P20 Pro

 

 เริ่มต้นที่ด้านหน้าของเครื่อง เอาตรงๆ ไม่อ้อมไปไหนนะ เหมือน Vivo V9 และ OPPO F7 เลย เพียงแต่ว่าด้านล่างสุดมีระบบสแกนลายนิ้วมือ พร้อมกับหน้าจอแบบ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว รองรับมัลติทัช 10 จุดถือว่ามากพอสมควร ส่วนบนมีกล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซลและลำโพง พร้อมกับเซนเซอร์ของเครื่อง    

ด้านข้างออกแบบได้โค้งมรับกับมือพร้อมกับขอบเครื่องเงาวับ ฝั่งซ้ายมีช่องใส่ซิม, ฝั่งขวามีปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่มเปิดเครื่อง

   

ด้านบนมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนและ อินฟราเรดสำหรับสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้า ด้านล่างมีทั้งไมโครโฟน, ลำโพง, USB-C ผิวสัมผัสเป็นเงาวับ


สี Midnight Blue
  

(สี ทไวไลท์) 

ด้านหลัง เป็นผิวกระจกเรียบง่าย มีทั้งหมด 4 สีแต่สีที่เราได้รีวิวเป็นสี Midnight Blue ซึ่งจะออกฟ้าหน่อยๆ โดยมีโลโก้ Huawei ล่าสุด ต้องกลับเครื่องเป็นแนวนอนถึงจะเห็นได้ชัดเจน ส่วนบนมีกล้องหลัง 3 ตัวประกอบไปด้วย บนสุด 8 ล้านพิกเซล F2.4 (Tele), กลาง 40 ล้านพิกเซล F1.8 และ ล่าสุด 20 ล้านพิกเซล F1.6 Monochrome และทั้งหมดมี OIS หมด แถมด้วย LED Flash มาให้แบบ True Tone ภาพรวมการเป็นกล้องถือว่าจับได้ถนัดมือดี แต่ถ้าทรงนี้ควรจะมีปุ่ม Shutter ก็จะดีนะ

คุณสมบัติที่น่าลองของ Huawei P20 Pro

  ยังคงใช้ Android 8.1 พร้อมกับครอบด้วย EMUI 8.5 ที่พัฒนาให้ดูดีขึ้น และทำงานดีขึ้นกว่าเดิม แต่ผมว่ายังต้องปรับปรุงในเรื่องความเสถียรพอสมควร เมื่อเทียบกับค่าย S นะ แถมสามารถปิดติ่งข้างบนได้ถ้ารำคาญจริงๆ     ระบบเสียงเป็นอีกส่ิงที่ประทับใจ แม้ว่าจะไม่ได้ปรับอะไรได้ แต่มี Dolby ATMOS พร้อมกับระบบเสียงผ่าน Bluetooth ที่ผมมองว่ายอดเยี่ยมเลยล่ะ     แต่ลูกเล่นที่เหลือ (ดูจากคลิปวิดีโอ) มันก็คือ Mate 10 Pro นั้นแหล่ะ ยกเว้นระบบสแกนใบหน้าที่เพิ่มเข้ามา มันทำงานเร็วดี แต่มืดก็จบข่าวนะ  
  กล้องหลัง 3 ตัวดีจริงหรือ ???   ต้องพูดถึงสักหน่อยสำหรับกล้องหลังของ Huawei P20 Pro ที่เป็นครั้งแรกทีได้กล้องหลัง 3 ตัวที่มีความละเอียดที่แตกต่างกัน แต่สามารถทำงานร่วมกันได้       (ตัวอย่างภาพจาก Huawei P20 Pro ดูรูปเพิ่มกดปุ่มซ้ายขวาที่รูปได้)   แต่ที่น่าสนใจครั้งนี้คือกล้องมีการติดตั้งเเทคโนโลนยีมากมายเช่น การซูม Optical 5 เท่า พร้อมระบบกันสั่นที่จัดว่าดีมาก โหมดการทำงานที่ง่าย โดยเฉพาะการถ่ายภาพกลางคือใน Night Shot สามารถกดได้อย่างง่ายเลยทีเดียวนี่ไม่นับ AI Scene Mode ที่ทำงานได้เอง แต่มองว่า บางครั้งต้องปิด มันทำงานผิดเช่นต้องการถ่ายพระอาทิตย์ตก แต่ถ้าตกไปแล้ว เข้าโหลด Blue Sky เฉยเลย     นอกจากนี้เรื่องการบันทึกวิดีโอ ทำได้ดีกว่าเดิม เพราะมีระบบกันสั่นทำให้การถือแล้ว Pan วิดีโอไป มันง่าย แต่ว่าอาจจะมืดไปหน่อย ถ้าให้พูดเรื่องสีถือว่าสมจริง และบันทึกได้แบบ 4K แถม Slow Motion 960 FPS อีกด้วย
 
 (ปกติ)
 
 (Beauty)
   

ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล สวยเหมือนเดิม น่าเสียดายที่ Sticker มันไม่มีให้เลือกเหมือนรุ่นเล็ก (พลาดได้ไงเนี่ย Huawei)

ประสิทธิภาพของ Huawei P20 Pro

Spec Model	Huawei P20 Pro
CPU	Hisilicon Kirin 970 Octa-core (4x2.4 GHz Cortex-A73 & 4x1.8 GHz Cortex-A53)
GPU	Mali G72 MP12
RAM	6GB
Intenal Storage	128GB
External Storage	None
ความถี่ 2G	GSM 850 / 900 / 1800 / 1900
ความถี่ 3G	HSDPA 800 / 850 / 900 / 1700(AWS) / 1900 / 2100
ความถี่ 4G	LTE Cat 18 1200/150Mbps
WiFi	802.11 b/g/n/ac Dual Band
Bluetooth	V4.2
Back Camera	Leica SUMMARIT - H 40 (F1.8) ล้านพิกเซล + 8 (F2.6) ล้านพิกเซล + 20 (F1.6) ล้านพิกเซล พร้อมกับระบบ Hybrid Auto Focus + Laser Focus + LED Flash True Tone
Front Camera	24 ล้านพิกเซล F1.9 Leica Lens
Display	6.1 นิ้ว OLED ความละเอียด 2160x1080
OS	Android 8.1 Oreo
NFC	YES
Battery	4000 mAh

เห็นสเปคแทบไม่เป็นห่วงอะไร การเล่นเกม และการทำงานทั่วไปของเครื่องถือว่าลื่นไหลดีใช้ได้และมี AI ทำให้การทำงานดีใช้ได้ แต่พูดเลยว่า แอบ Clear พื้นที่เองเพื่อให้ลื่นไหลเองด้วย มันก็ดีนะ ขอแค่อย่าปิด Apps เองก็พอ

 
ส่วนแบตเตอรี่ของ Huawei P20 Pro ให้มาขนาด 4000 mAh การใช้งานปกติ ถือว่าอึดดีอยู่ได้ทั้งวัน แต่ว่า การทดสอบพบว่าไม่ได้ทนมาก อยู่ที่ 8 ชั่วโมง 50 นาที เท่านั้น ระบบตัวช่วยให้อยู่ได้นานขึ้นมีมาให้ครบ แถม Super Charging ทำให้ชาร์จไฟเครื่องได้เร็วมาก

5 สิ่งที่ชอบหลังลอง Huawei P20 Pro

1. หน้าจอสวยและสีสวยงาม
2. กล้องเทพและทำอะไรได้เยอะมากมาย
3. EMUI เวอร์ชั่นนี้ทำงานได้ลื่นกว่า Mate 10 Pro
4. ระบบสแกนใบหน้าทำงานได้เร็ว
5. AI มีบทบาทกับการทำงานของเครื่องเยอะดี

ข้อควรปรับปรุง

• AI ของกล้องเข้ามาช่วยเยอะจนเกินไปและยังไวไม่พอในบางครั้ง
• การทำงานของเครื่องอาจจะมีปัญหาบางจุด โดยเฉพาะ Apps บางตัว
• ภาพรวมของลูกเล่นเครื่อง เหมือนกับ Mate 10 Pro
• ไม่รองรับ Wireless Charge
• หน้าจอความละเอียดน้อยกว่าคู่แข่ง

คุ้มค่าหรือไม่สำหรับ Huawei P20 Pro

  จากที่ได้ลองใช้งานเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์พูดเลยว่า Huawei P20 Pro เป็นมือถือที่เน้นเรื่องกล้องจริงจังที่ทำให้หลายคนสนใจมันอยู่ไม่น้อย ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่ทุ่มไปเรื่องนี้มาก แต่เรื่องอื่นๆ ก็ยังคงมีให้ แต่ว่าอาจจะต้่องทำใจกับเรื่องความเสถียรของเครื่องนิดหน่อย   ราคาของมันอยู่ที่ 27,990 บาทอย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ คู่แข่งมีทั้ง iPhone X, Samsung Galaxy S9+ ที่ต้องเจอ แต่ถ้าคุณคิดว่าต้องการกล้องเทพไปเลย ไม่อยากซื้อ Mirror Less แล้วตัวนี้ก็ถือว่าจบได้เช่นกัน   เว้นแต่ถ้าคิดว่าลองเองแล้วยังมีบางสิ่งไม่ชอบ ตัวเลือกอื่นก็ทำได้ดีไม่แพ้กันครับ   แต่ถ้าใครอยากให้ทำเทียบกับ Samsung Galaxy S9+ โปรดรอหน่อยนะครับ เจอกันเร็ว นี้แน่นอน