สัมผัสแรก vivo NEX 3 เรือธงของดี กับการกลับมาที่เรียกได้ว่า น่าสนใจ
สิ้นสุดการรอคอยสำหรับ vivo ที่ได้เผยโฉมเรือธงอย่างเป็นทางการแล้วในชื่อรุ่น vivo NEX 3 จัดว่าเป็นการกลับมาของเรือธงใน 5 ปีที่หายไป หลังจาก X Shot กลับมาคราวนี้มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง เรามาติดตามกันเลยดีกว่า

สำหรับคนที่คุ้นเคยกับมือถือกล้อง POPUP อาจจะไม่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นอย่างไร แต่สำหรับ vivo NEX 3 จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 99.6% โดยมีขนาดหน้าจอใหญ่มากถึง 2400x1080 พิกเซล ถือว่ากว้างมากพอสมควร และขอบเครื่องจะเป็นกระจกทั้งหมด ทรงหน้าจอเป็นแบบ Water Fall ไร้กรอบ ทำให้ปุ่มกดทั้งหมดฝั่งทางข้างขวาเรียกว่า Touch Sensor มีทั้งหมด 7 จุดทำหน้าที่ เป็นทั้งปุ่ม Power, ปุ่ม เพิ่ม หรือ ลด ระดับเสียงลงนั่นเอง
ด้านหลังมาพร้อมกับสีสันที่ดูเรียบง่าย อย่าง Glowing Night ดำและออกน้ำเงิน พร้อมกับกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว ข่าวดีคือ มือถือรุ่นนี้มีช่องเสียบหูฟัง พร้อมกับปุ่ม Sleep Mode และมีกล้องหน้า POPUP ความละเอียดสูง และมีช่องชาร์จแบบ USB-C แต่ไม่สามารถเพิ่มความจำได้ ในเบื้องต้นประมาณนี้
เห็นสเปกแล้วต้อยอมรับว่านี่คือ มือถือที่ขายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการรุ่นแรกที่ใช้ Qualcomm Snapdragon 855+ รุ่นใหม่พร้อมกับระบบระบายความร้อน แบบของเหลว ส่วนแบตเตอรี่ใหญ่โตอลังการมาพร้อมระบบทั้งชาร์จไฟเร็ว 22.5W และ ระบบช่วยจัดการพลังงาน C-DRX และมี VCAP ระบบอัจฉริยะของ vivo เป็น AI เรียนรู้การทำงานและปรับการใช้ GPU, CPU, DSP รวมไปถึง NPU ได้อย่างฉลาด ส่วนฟีเจอร์ที่เหลือก็มีดังนี้
สำหรับราคาของ vivo NEX 3 เปิดตัวที่ 24,999 บาท ถือว่าสูงพอสมควรเลยทีเดียว แต่ก็มีจุดเด่นมากมาย นอกจากนี้ใครที่สนใจอยากสั่งจองสามารถซื้อผ่าน Lazada ได้ตั้งแต่ 16 - 28 กันยายน และรับของได้ 30 กันยายน นี้ ส่วนร้านค้าทั่วไปก็วางจำหน่าย 30 กันยายน นี้ ใครที่สนใจอย่าลืมไปจับจองกันนะครับ
และนี่คือการพรีวิวแบบสั้นๆ ให้ได้ชมก่อนที่จะมีรีวิวให้ได้ชมกันเร็วๆ นี้ต้องรอติดตามชมกันต่อไปนะครับ
รูปลักษณ์หน้าตาเป็นอย่างไร

สำหรับคนที่คุ้นเคยกับมือถือกล้อง POPUP อาจจะไม่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นอย่างไร แต่สำหรับ vivo NEX 3 จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 99.6% โดยมีขนาดหน้าจอใหญ่มากถึง 2400x1080 พิกเซล ถือว่ากว้างมากพอสมควร และขอบเครื่องจะเป็นกระจกทั้งหมด ทรงหน้าจอเป็นแบบ Water Fall ไร้กรอบ ทำให้ปุ่มกดทั้งหมดฝั่งทางข้างขวาเรียกว่า Touch Sensor มีทั้งหมด 7 จุดทำหน้าที่ เป็นทั้งปุ่ม Power, ปุ่ม เพิ่ม หรือ ลด ระดับเสียงลงนั่นเอง
ด้านหลังมาพร้อมกับสีสันที่ดูเรียบง่าย อย่าง Glowing Night ดำและออกน้ำเงิน พร้อมกับกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว ข่าวดีคือ มือถือรุ่นนี้มีช่องเสียบหูฟัง พร้อมกับปุ่ม Sleep Mode และมีกล้องหน้า POPUP ความละเอียดสูง และมีช่องชาร์จแบบ USB-C แต่ไม่สามารถเพิ่มความจำได้ ในเบื้องต้นประมาณนี้
สเปก / ฟีเจอร์ที่น่ารู้
Spec | vivo Nex 3 |
Dimension | 167.4 x 76.1 x 9.4 mm |
Weight | 217.3 กรัม |
CPU | Qualcomm Snapdragon 855+ |
RAM / ROM | 8GB / 128GB |
การเชื่อมต่อ | 4G / WiFi AC (dual Band) / Bluetooth 5.0 |
Battery | 5000 mAh + Fast Charge 22.5W |
Port | USB-C / audio 3.5 mm. |
กล้องหน้า | 16 ล้านพิกเซล F 2.1 แบบ Popup |
กล้องหลัง | 48MP Main Camera +13MP Ultra Wide Angle Lens (120°) 13 MP Telephoto |
หน้าจอ | 6.89 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด 1080 x 2256 |
ลำโพง | HiFi Audio ผ่านชิบ AK 4377A |
ระบบปฏิบัติการ | Android Pie + Fun Touch OS 9 |
เห็นสเปกแล้วต้อยอมรับว่านี่คือ มือถือที่ขายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการรุ่นแรกที่ใช้ Qualcomm Snapdragon 855+ รุ่นใหม่พร้อมกับระบบระบายความร้อน แบบของเหลว ส่วนแบตเตอรี่ใหญ่โตอลังการมาพร้อมระบบทั้งชาร์จไฟเร็ว 22.5W และ ระบบช่วยจัดการพลังงาน C-DRX และมี VCAP ระบบอัจฉริยะของ vivo เป็น AI เรียนรู้การทำงานและปรับการใช้ GPU, CPU, DSP รวมไปถึง NPU ได้อย่างฉลาด ส่วนฟีเจอร์ที่เหลือก็มีดังนี้
- ระบบปฏิบัติการ FunTouch OS 9 พร้อมกับ Android 9.0 และไปต่อได้แน่นอน
- หน้าจอ OLED ที่พัฒนาใหม่ มาพร้อมกับฟีเจอร์ลดการกระพริบของจอได้ และมี Read Mode ที่ทำงานได้สมบูรณ์แบบ
- ขอบเครื่องแสดงผลตามเสียงเพลงเป็นคลื่นได้
- กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และมี LED Flash มาให้พร้อมกับ AI Beauty และปรับ Beauty ได้ละเอียดยิบ
- กล้องหลัง 3 ตัวประกอบไปด้วยความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ในแบบปกติ และกล้อง Tele Photo, Ultra Wide 120 องศาทั้งคู่มีขนาด 13 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับลูกเล่นกล้องทั้
- JOVI AI ทำให้รู้ว่าวัตถุนั้นคืออะไร และถ่ายเอกสารได้
- การถ่ายแบบ Super Marco ใกล้สุด 2.5 เซนติเมตร
- การถ่ายวิดีโอ 4K ุ60 FPS
- การถ่ายภาพละลายหลังได้ดีมาก
- AI Scene Mode ปรับได้หลายแบบ
- Hyper HDR ช่วยทำให้การถ่ายคน ภาพจะสวยมากขึ้น
ราคาตัวเครื่องเป็นอย่างไร
สำหรับราคาของ vivo NEX 3 เปิดตัวที่ 24,999 บาท ถือว่าสูงพอสมควรเลยทีเดียว แต่ก็มีจุดเด่นมากมาย นอกจากนี้ใครที่สนใจอยากสั่งจองสามารถซื้อผ่าน Lazada ได้ตั้งแต่ 16 - 28 กันยายน และรับของได้ 30 กันยายน นี้ ส่วนร้านค้าทั่วไปก็วางจำหน่าย 30 กันยายน นี้ ใครที่สนใจอย่าลืมไปจับจองกันนะครับ
และนี่คือการพรีวิวแบบสั้นๆ ให้ได้ชมก่อนที่จะมีรีวิวให้ได้ชมกันเร็วๆ นี้ต้องรอติดตามชมกันต่อไปนะครับ
Post a Comment