รีวิว iPhone 11 การกลับมาของ iPhone ที่ทำให้ใครหลายคนร้องว่า "อยากได้"

ก่อนหน้านี้ผมได้รีวิว iPhone 11 Pro และ 11 Pro Max กันไปแล้ว ทิ้งห่างเวลาพอสมควรวันนี้เราก็เลยจะมารีวิวรุ่นเล็กอย่าง iPhone 11 กันว่าเมื่อราคาห่างจากรุ่นพี่พอสมควรและมันคุ้มไหมที่จะเลือก และมันต้องมีรุ่นเปรียบเทียบแน่นอนจะเป็นตัวไหนบ้างมาดูกัน







รูปลักษณ์หน้าตา



เริ่มต้นกับหน้าตาของ iPhone 11 จะมาพร้อมกับหน้าจอ Liquid Retina display ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 1792x828 พิกเซล พร้อมกับรอยบากด้านบนที่มีกล้องหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมกับลำโพงสำหรับฟังเสียงสนทนา และ เป็นลำโพงตัวที่ 12 ได้ด้วย





รอบตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียม เคลือบสีที่สวยงามเหมือนกับ iPhone XR ปุ่มต่างๆ ทั้งฝั่งซ้ายจะมีปุ่มสำหรับปิดเสียง, ปรับระดับเสียง ฝั่งขวามาพร้อมกับปุ่ม เปิดปิดตัวเครื่อง / กดค้างเรียก Siri ส่วนบนไม่มีอะไร และด้านล่างมาพร้อมกับลำโพงตัวเครื่อง, ไมโครโฟน และช่องเสียบ Lightning Port



หลังเครื่องเป็นกระจก โดยส่วนกล้องหลังส่วนบนมีกระจกอีกแผ่นติดครอบไว้ พร้อมกับเลนส์กล้องคู่ มีไมโครโฟน และ โลโก้ Apple สำหรับสีแดง จะมีคำว่า Product Red แปะไว้ข้างล่าง

ฟีเจอร์ / สเปกของเครื่อง iPhone 11




ข่าวดีสำหรับคนที่กลัวว่า iPhone 11 จะได้สเปกที่ต่ำเหมือนรุ่นก่อนหน้านี้ แต่ขอบอกว่า ผิดครับ เพราะ iPhone 11 ได้สเปกภาพรวมไม่ได้แตกต่างจากรุ่นท็อป ยกเว้นความจำที่มีให้เลือก 64GB / 128GB และ 256GB เท่านั้น ดังนั้นการทดสอบประสิทธิภาพจึงทำได้ดีกว่าและเรื่องของการเล่นเกมก็ยังคงทำได้ดี




ระบบปฏิบัติการมาพร้อมกับ iOS 13.1.3 รุ่นล่าสุดที่ใช้งานได้ดี นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัยแบบ Face ID มาให้เหมือนเดิม ลูกเล่นเหมือนกับ iPhone 11 Pro ที่รีวิวก่อนหน้านี้

สำหรับกล้องนั้นด้านหน้ายังคใงให้ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และมีเทคโนโลยีการละลายหลังได้เพราะติดตั้งเลนส์ Depth Sensor ของระบบสแกนใบหน้ามาช่วยละลายหลัง








กล้องหลังมีความแตกต่างเล็กน้อยโดย มีเลนส์ให้ 2 แบบคือ Wide รูรับแสง F1.8 และ Ultra Wide ทำให้สามารถฟีเจอร์ Portrait ละลายหลังไม่จำเป็นหน้าคน แต่เป็นวัตถุได้ด้วย



ส่วนการถ่ายวิดีโอยังคงเหมือนกับ iPhone 11 Pro ทุกประการ นั่นคือการถ่ายวิดีโอปกติความละเอียดสูงสุด 4K 60 FPS และกล้องหน้าความละเอียด Full HD รองรับการถ่าย Slofie หรือ Slowmotion Selfie ในแบบ 120 FPS

ความรู้สึกหลังลอง



ตัวเครื่องถือว่าจับได้ถนัดมือเพราะตัวเครื่องใหญ่กว่า iPhone 11 Pro แต่เล็กกว่า iPhone 11 Pro Max และน้ำหนักเบา อาจจะมาพร้อมกับดีไซน์ของเครื่องยังคงคล้ายกับ iPhone XR ตัวก่อนพอสมควรยกเว้น กระจกหลังเครื่องและโลโก้

ส่วนเรื่องที่ยังไม่น่าประทับใจคือ แบตเตอรี่เพราะว่าไม่ได้อึดกว่า iPhone XR เท่าไหร่ ส่วนราคาแม้จะถูกลงแต่ก็ยังรู้สึกว่า มันก็ยังสูงกว่า Android ในกลุ่มเดียวกันเท่าไหร่

มาทีหลังต้องเปรียบเทียบ



การเปรียบเทียบกับ iPhone XR จากในคลิปที่ผมได้ทำขึ้นมา ต้องบอกว่าในเรื่องของประสิทธิภาพของเครื่องห่างกันพอสมควร กล้องหลังตัวเดียว และ กล้องหน้าความละเอียดน้อยกว่า แต่เมื่อตอนนี้ปรับราคาลดลงมาถ้าคิดว่าอยากได้ iPhone คุ้มๆ แต่งบไม่มาก iPhone XR ยังคงจัดได้เช่นเดียวกัน

ส่วนเจอกับ Android อาจจะด้อยกว่าในเรื่องของราคาเครื่องที่แพงกว่า แต่ได้ว่า iPhone 11 อาจจะยังไม่ได้ตอบโจทย์อะไรมาก ยกเว้นประสิทธิภาพที่ดีกว่านั่นเอง

คุ้มค่าหรือไม่



ด้วยคุณสมบัติที่เล่าไปทั้งหมด iPhone 11 รุ่นเล็กแบบนี้แต่มีราคาเริ่มต้นเพียง 24,900 บาท สำหรับความจุ 64GB, 26,900 บาท สำหรับความจำ 128GB และ 256GB ในราคา 30,900 บาท ถูกกว่า iPhone XR ที่เปิดตัวในปีก่อนพอสมควร ก็ถือว่าคุ้มสำหรับคนที่อยากเลือก iPhone รุ่นใหม่ที่สเปกครบแต่ราคาไม่หนักเกินไป ครับ

และเมื่อเทียบกับ Android อาจจะยากเกินหลายคนเข้าใจ แต่ถ้าถามว่ามันถูกกว่า Android ไหม คำตอบคือ ไม่ได้ถูกขนาดนั้นเพราะ Android ที่ได้คุณสมบัตินี้แต่จ่ายน้อยกว่าก็มีให้เลือกมากมาย

สุดท้ายก็ขึ้นกับความพอใจของคุณเองว่า จะเลือกไปที่ตัวไหนมากกว่ากันระหว่าง iOS และ Android ผมคงตอบแทนคุณไม่ได้ ต้องให้ตัวคุณตอบโจทย์นี้เองครับ


ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.