เปิดราคา Samsung Galaxy S20 Series และ Galaxy Z Flip .ในประเทศไทย



ซัมซุงเปิดทศวรรษใหม่ของ ซัมซุง กาแลคซี่ เผยโฉมสุดยอดนวัตกรรมสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด นำโดย กาแลคซี่ เอส 20 (Galaxy S20) สมาร์ทโฟนแฟลกชิปที่จะมาพลิกกฎการถ่ายภาพและวิดีโอแบบเดิมๆ ด้วยนวัตกรรมกล้องวิดีโอที่ดีที่สุดของซัมซุง พร้อมฟีเจอร์ใหม่ตอบโจทย์มิลเลนเนียลที่รักการบันทึกและแชร์โมเมนต์โดนใจบนโซเชียลมีเดีย และ กาแลคซี่ ซี ฟลิป (Galaxy Z Flip) สมาร์ทโฟนพับได้โฉมใหม่ ที่โดดเด่นและสวยงามทันสมัยกับการพับในแนวตั้ง มาพร้อมนวัตกรรมจอกระจกพับได้เป็นครั้งแรก ดีไซน์การใช้งานที่ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นพิเศษนี้ จะเปลี่ยนนิยามของการถ่ายภาพ การแบ่งปันประสบการณ์ และการเพลิดเพลินไปกับคอนเทนท์บนสมาร์ทโฟนไปอย่างสิ้นเชิง

ออกแบบอนาคตของการสื่อสารด้วย กาแลคซี่ เอส 20 ซีรีส์

 
กาแลคซี่ เอส 20
กาแลคซี่ เอส 20 พลัส
กาแลคซี่ เอส 20 อัลตร้า 5G
หน้าจอ
6.2 นิ้ว Quad HD+ Dynamic AMOLED 2X
 Infinity-O Display (3200X1440)
HDR10+ certified
120Hz display support
6.7 นิ้ว Quad HD+ Dynamic AMOLED 2X
 Infinity-O Display (3200X1440)
HDR10+ certified
120Hz display support
6.9 นิ้ว Quad HD+ Dynamic AMOLED 2X
 Infinity-O Display (3200X1440)
HDR10+ certified
120Hz display support
 
*หน้าจอแบบ Infinity-O Display: จอแสดงผลแบบไร้ขอบ full-frontal screen.
*เมื่อวัดตามแนวทแยงมุมฉาก ขนาดหน้าจอของ กาแลคซี่ เอส 20 อยู่ที่ 6.2 นิ้ว และ 6.1 นิ้ว เมื่อวัดโดยคำนึงถึงมุมโค้งของขอบโทรศัพท์, กาแลคซี่ เอส 20 พลัส มีขนาดหน้าจออยู่ที่ 6.7 นิ้ว และ 6.5 นิ้ว เมื่อวัดโดยคำนึงถึงมุมโค้งของขอบโทรศัพท์ และ สำหรับ กาแลคซี่ เอส 20 อัลตร้า มีขนาดหน้าจออยู่ที่ 6.9 นิ้ว และ 6.7นิ้ว เมื่อวัดโดยคำนึงถึงมุมโค้งของขอบโทรศัพท์ มุมมองจอภาพจริงอาจมีพื้นที่เล็กกว่าเนื่องจากมุมโค้งของขอบโทรศัพท์และรูกล้อง
*ค่า Refresh rate เริ่มต้นอยู่ที่ 60Hz โดยสามารถเปลี่ยนค่า Refresh rate เป็น 120Hz ได้ในโหมด Setting.
กล้อง
 
กล้องหน้า
1
0 ล้านพิกเซล, Dual Pixel AF, F2.2 80 องศา

กล้องหลัง: 3 ตัว
Ultra Wide: *12
ล้านพิกเซล, F2.2 120 องศา

Wide-angle: *12
ล้านพิกเซล, F1.8 79 องศา
Super Speed Dual Pixel AF, OIS

Telephoto: *64 ล้านพิกเซล, PDAF F2.0 76 องศา, OIS
กล้องหน้า
10
ล้านพิกเซล, Dual Pixel AF, F2.2 80 องศา

กล้องหลัง: 4 ตัว

Ultra Wide: *12
ล้านพิกเซล, F2.2 120 องศา

Wide-angle: *12
ล้านพิกเซล, F1.8 79 องศา
Super Speed Dual Pixel AF, OIS

Telephoto: *64
ล้านพิกเซล, PDAF, F2.0 76 องศา, OIS

กล้องชัดลึก
กล้องหน้า
40
ล้านพิกเซล, PDAF, F2.2 80 องศา

กล้องหลัง: 4 ตัว

Ultra Wide: *12
ล้านพิกเซล, F2.2 120 องศา

Wide-angle: *108
ล้านพิกเซล, F1.8 79 องศา
PDAF, OIS

Telephoto: **48
ล้านพิกเซล, PDAF, F3.5 24 องศา, OIS

กล้องชัดลึก
*Super Resolution Zoom รวมถึงการซูมแบบดิจิทัล อาจทำให้คุณภาพของภาพลดลง
**กล้อง 48 ล้านพิกเซล ใช้สำหรับการซูมเท่านั้น
ตัวเครื่อง
ขนาด 151.7 x 69.1 x 7.9 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 163 กรัม
ขนาด 161.9 x 73.7 x 7.8 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 186 กรัม

*รุ่น 5G mmWave หนัก 188 กรัม
ขนาด 166.9 x 76.0 x 8.8 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 220 กรัม

*รุ่น 5G mmWave หนัก 222 กรัม
หน่วยประมวลผล
- 7 nm 64-bit Octa-Core Processor * 2.7GHz (Maximum Clock Speed) + 2.5GHz + 2GHz
- 7 nm 64-bit Octa-Core Processor * 2.8
GHz (Maximum Clock Speed) + 2.4GHz + 1.8GHz
*อาจแตกต่างกันในแต่ละประเทศและผู้ให้บริการ
หน่วยความจำ
LTE
8GB RAM (LPDDR5)
หน่วยความจำภายใน 128GB
LTE
8GB RAM (LPDDR5)
หน่วยความจำภายใน 128GB
LTE/5G
12GB RAM (LPDDR5)
หน่วยความจำภายใน 128GB
 
*อาจแตกต่างกันออกไปในแต่ละรุ่น สี ประเทศ และผู้ให้บริการ
*ขนาดของหน่วยความจำภายในตัวเครื่องอาจขึ้นอยู่กับ Pre-installed Software
หน่วยความจำที่สามารถเพิ่มได้ & ซิมการ์ด
รุ่นรองรับซิมเดี่ยว Single SIM: Nano SIM และ ช่องสำหรับ MicroSD (สูงสุด 1TB)
รุ่นรองรับ 2 ซิม Dual SIM (Hybrid SIM slot): Nano SIM และ Nano SIM หรือ ช่องสำหรับ MicroSD (สูงสุด 1TB)

*SIM card มีวางจำหน่ายแยกโดยเฉพาะ Dual SIM อาจมีวางจำหน่ายแตกต่างกันขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศและผู้ให้บริการเครือข่าย
*MicroSD card มีวางจำหน่ายแยกโดยเฉพาะ และอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศและผู้ผลิต
* กาแลคซี่ เอส 20, เอส 20 พลัส และ เอส 20 อัลตร้า รองรับ eSIM โดย eSIM ต้องการ wireless service plan เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานบริการเครือข่ายโทรศัพท์โดยไม่ต้องมี nano-SIM eSIM มีวางจำหน่ายแตกต่างกันขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศและผู้ให้บริการเครือข่าย กรุณาตรวจสอบกับผู้ให้บริการเครือข่าย eSIM ในแต่ละประเทศ
แบตเตอรี่
4000mAh (โดยทั่วไป)
4500mAh (โดยทั่วไป)
5000mAh (โดยทั่วไป)
 
*ความจุโดยทั่วไปของแบตเตอรี่ถูกทำการทดสอบโดยแล็บภายนอก โดยวัดจากความจุโดยเฉลี่ยจากค่ามาตรฐานภายใต้ IEC 61960 โดยคำนึงถึงค่าความคลาดเคลื่อนของการใช้งานแบตเตอรี่จากตัวอย่าง ความจุโดยต่ำสุดของแบตเตอรี่สำหรับ กาแลคซี่ เอส 20 อยู่ที่ 3,880 mAh, กาแลคซี่ เอส 20 พลัส อยู่ที่ 4,370 mAh และ กาแลคซี่ เอส 20 อัลตร้า อยู่ที่ 4,855 mAh โดยอายุการใช้งานของแบตเตอรี่นั้นขึ้นอยู่กับเครือข่าย ลักษณะการใช้งาน และปัจจัยอื่นๆ

ในทศวรรษใหม่นี้ เทคโนโลยี 5G จะมาพลิกโฉมการสื่อสารและเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้คนบนโลก ซัมซุงในฐานะผู้นำนวัตกรรมสมาร์ทโฟน พร้อมแล้วที่จะกำหนดนิยามของยุคใหม่ ด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟน 5G รุ่นแรกในประเทศไทย กาแลคซี่ เอส 20 อัลตร้า 5G’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสมาร์ทโฟนแฟลกชิปซีรีส์ใหม่ในตระกูล กาแลคซี่ เอส ประกอบด้วย กาแลคซี่ เอส 20, กาแลคซี่ เอส 20 พลัส และ กาแลคซี่ เอส 20 อัลตร้า 5G



พลิกทุกกฎเกณฑ์ของการถ่ายภาพและวิดีโอด้วย กาแลคซี่ เอส 20 ซีรีส์
จากเทรนด์ของคนในปัจจุบันที่นิยมถ่ายภาพและวิดีโอเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของตนเองผ่านสมาร์ทโฟน ทำให้ กล้องกลายเป็นฟีเจอร์ที่สำคัญที่สุดที่ผู้บริโภคใช้เป็นปัจจัยในการตัดสินใจเลือกซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ ซึ่งกาแลคซี่ เอส 20 ซีรีส์ ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์รูปแบบการใช้ชีวิตของผู้ใช้งาน ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีกล้องวิดีโอที่ดีที่สุดของซัมซุง ที่ทำงานด้วย AI อันทรงพลังและเซ็นเซอร์รับภาพขนาดใหญ่ที่สุดของซัมซุง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถบันทึกทุกโมเมนต์สำคัญได้อย่างดีที่สุด
·        วีดีโอคมชัด ประสบการณ์เสมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์: กาแลคซี่ เอส 20 สามารถถ่ายวิดีโอด้วยความคมชัดระดับ 8K เพื่อให้ผู้ใช้ได้บันทึกโลกที่พวกเขามองเห็นด้วยสีและคุณภาพที่สมจริงที่สุด รวมถึงแคปเจอร์ภาพนิ่งจากวิดีโอ 8K ดังกล่าวในรูปแบบภาพความละเอียดสูง (Hi-Res) ได้ทันที ด้วยฟีเจอร์ 8K VDO Snap ทั้งนี้ ด้วยระบบ Super Steady ที่ป้องกันการสั่น รวมถึงการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวด้วย AI จึงทำให้ภาพวิดีโอที่มีการเคลื่อนไหวสูงดูนิ่งและนุ่มนวลเสมือนถ่ายโดยใช้อุปกรณ์กันสั่น Gimbal
·        หนึ่งการบันทึกภาพกับความเป็นไปได้ไม่รู้จบ: โหมดถ่ายภาพอัจฉริยะ Single Take ให้ผู้ใช้งานได้ทั้งภาพถ่ายและวิดีโอในรูปแบบที่หลากหลายมากสูงสุด 14 แบบ ผ่านการกดบันทึกในช็อตเดียว ไม่ว่าจะเป็นแบบ Live Focus, Cropped, Ultra Wide กว้างถึง 120 องศา โดยผ่านเทคโนโลยีกล้อง AI เพื่อให้ไม่พลาดทุกโมเมนต์สำคัญที่เกิดขึ้น
·        ที่สุดของความคมชัดในทุกรายละเอียด: ด้วยเซนเซอร์รับภาพขนาดใหญ่ของกาแลคซี่ เอส 20 ซีรีส์ ทำให้ภาพมีความละเอียดเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก โดยมีความละเอียด 64 ล้านพิกเซลในกาแลคซี่ เอส 20 และ
กาแลคซี่ เอส 20 พลัส และสูงถึง 108 ล้านพิกเซล ในกาแลคซี่ เอส 20 อัลตร้า 5G ซึ่งทำให้ภาพถ่ายคุณภาพสูง คมชัดแม้ต้องซูม, ครอป และแก้ไขภาพ พร้อมกันนี้ จากการรับแสงที่มากขึ้นผ่านเซนเซอร์ขนาดใหญ่ และความก้าวล้ำไปอีกขั้นของกาแลคซี่ เอส 20 อัลตร้า 5G ที่มีความสามารถในการสลับสับเปลี่ยนระหว่างโหมดความละเอียดสูง 108 ล้านพิกเซล กับโหมด 12 ล้านพิกเซล ผ่านเทคโนโลยี Nona-binning ที่สามารถรวมพิกเซลเก้าเม็ดเป็นหนึ่งเดียวที่ระดับเซ็นเซอร์ จึงทำให้ผู้ใช้ได้สัมผัสกับภาพที่มีคุณภาพสูงขึ้นแม้ในสภาพแสงน้อยก็ตาม
·        พลังซูมเหนือระดับ: ไม่ว่าจะอยู่ห่างไกลแค่ไหน ด้วยพลังของเทคโนโลยีสเปซ ซูม (Space Zoom) ที่เป็นการทำงานร่วมกันของ Hybrid Optic Zoom, Super Resolution Zoom และ AII-powered digital Zoom จึงทำให้กาแลคซี่ เอส 20 สามารถซูมภาพทุกสิ่งที่ต้องการให้เข้ามาใกล้อย่างง่ายดาย ด้วยความสามารถในการซูมถึง 30 เท่าในกาแลคซี่ เอส 20 และกาแลคซี่ เอส 20 พลัส หรือก้าวล้ำไปอีกขั้นกับกาแลคซี่ เอส 20 อัลตร้า 5G ซึ่งใช้ AI อันทรงพลังและการประมวลผลภาพหลายภาพเข้าด้วยกันในขณะซูมไกล เพื่อให้ผู้ใช้ได้ซูมภาพขั้นสูงสุดถึง 100 เท่า พร้อมสัมผัสกับภาพอันคมชัดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน



ทำสิ่งที่รักได้ดียิ่งขึ้นด้วย กาแลคซี่ เอส 20 ซีรีส์
·        เพลิดเพลินกับเพลงโปรดเฉพาะตัว: ด้วยความร่วมมือระหว่าง Spotify และ Bixby Routines ผู้ใช้จะได้เพลิดเพลินกับซาวด์แทร็กส่วนตัว (personalized soundtrack) ที่ปรับเปลี่ยนตามกิจวัตรประจำวันของตนเอง นอกจากนี้ ด้วยฟีเจอร์ Music Share ผู้ใช้ยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของเพื่อนของคุณผ่านเทคโนโลยี Bluetooth และสามารถควบคุม เปิด เปลี่ยนเพลงไปยังเครื่องเสียงรถยนต์หรือลำโพง ทำให้ผู้ใช้และเพื่อนได้สนุกกับการผลัดเปลี่ยนกันเป็นดีเจได้อย่างสนุกสนานตลอดการเดินทาง 
·        วิดีโอแชทผ่าน Google Duo: ผู้ใช้ กาแลคซี่ เอส 20 สามารถวิดีโอแชทได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น และด้วยเทคโนโลยี 5G กาแลคซี่ เอส 20 จะช่วยยกระดับการสนทนาทางวิดีโอขึ้นไปอีกขั้น จากการทำงานร่วมกับ Google Duo ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้ใช้จะได้สัมผัสกับฟีเจอร์ Duo ใหม่ในกาแลคซี่ เอส 20 และสามารถเพลิดเพลินกับภาพที่คมชัดระดับ Full HD[1] ได้ตั้งแต่เริ่มต้นกดปุ่ม Duo เพื่อใช้งานวิดีโอแชท ซึ่ง Google Duo สามารถทำงานร่วมกันได้กับทุกระบบปฏิบัติการ ดังนั้นผู้ใช้จึงสามารถสนทนาผ่านวิดีโอได้กับทุกคนอย่างไม่มีข้อจำกัด และเมื่อใช้เลนส์ไวด์ (Wide lens) ผู้ใช้จะสามารถพูดคุยกับเพื่อนได้พร้อมกันสูงสุดถึง 8 คน



สัมผัสประสบการณ์แห่งความเป็นไปได้ที่ไม่สิ้นสุด
กาแลคซี่ เอส 20 ซีรีส์ อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีระดับพรีเมี่ยมที่ทุกคนรอคอย ซึ่งสมาร์ทโฟนซีรีส์นี้ คืออุปกรณ์ที่มีความปลอดภัยสูงที่สุด จากการปกป้องด้วย ซัมซุง น็อกซ์ (Knox) แพลตฟอร์มความปลอดภัยสมาร์ทโฟนชั้นนำของอุตสาหกรรม ที่ให้ความคุ้มครองตั้งแต่ระดับชิปจนถึงซอฟต์แวร์
กาแลคซี่ เอส 20 ซีรีส์ มาพร้อมแบตเตอรี่อัจฉริยะความจุสูง และที่ชาร์จ 25W โดยรุ่น กาแลคซี่ เอส 20 อัลตร้า 5G ยังสามารถรองรับระบบชาร์จเร็ว Super Fast Charge 45W ทุกรุ่นมาพร้อมพื้นที่เก็บข้อมูลขนาด (Storage) 128 GB สำหรับ กาแลคซี่ เอส 20 และ กาแลคซี่ เอส 20 พลัส มาพร้อมหน่วยความจำ (RAM) 8 GB  และในรุ่น กาแลคซี่ เอส 20 อัลตร้า 5G มาพร้อมหน่วยความจำ (RAM) 12 GB  
ทั้งนี้ กาแลคซี่ เอส 20 ซีรีส์ ยังมาพร้อมกับ One UI 2 ซึ่งนำเสนอการออกแบบที่กระชับเรียบง่าย โดยผู้ใช้สามารถใช้งานสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เพื่อควบคุมอุปกรณ์อัจฉริยะภายในบ้านผ่านแอปพลิเคชั่น SmartThings ติดตามกิจกรรมด้านสุขภาพผ่าน Samsung Health รวมถึงชำระค่าบริการต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ผ่าน Samsung Pay
กาแลคซี่ เอส 20 ซีรีส์ มีวางจำหน่ายในประเทศไทย 3 รุ่น ได้แก่ กาแลคซี่ เอส 20 สี Cosmic Grey, Cloud Blue และ Cloud Pink ราคา 28,900 บาท กาแลคซี่ เอส 20 พลัส สี Cosmic Grey, Cloud Blue และ Cosmic Black ราคา 31,900 บาท กาแลคซี่ เอส 20 อัลตร้า 5G สี Cosmic Grey และ Cosmic Black ราคา 39,900 บาท เริ่มเปิดจอง พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ – 5 มีนาคม นี้



สู่ทศวรรษใหม่ของสมาร์ทโฟนจอพับได้ กับ กาแลคซี่ ซี ฟลิป
หาก กาแลคซี่ โฟลด์ (Galaxy Fold) คือผู้ปฏิวัติวงการและบุกเบิกยุคของสมาร์ทโฟนพับได้ วันนี้ กาแลคซี่ ซี ฟลิป (Galaxy Z Flip) ได้กลายเป็นผู้กำหนดทิศทางของสมาร์ทโฟนพับได้ในทศวรรษใหม่นี้อีกครั้ง โดยเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกใน ตระกูล Z พอร์ตโฟลิโอใหม่ล่าสุดจากซัมซุง ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำตลาด พร้อมเดินหน้าต่อยอดพัฒนาเทคโนโลยีจอพับได้ที่จะสร้างความตื่นตาตื่นใจและเซอร์ไพรส์อีกมากมายนับจากนี้
เมื่อแฟชั่นมาบรรจบกับเทคโนโลยี
ดีไซน์ที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของ กาแลคซี่ ซี ฟลิป ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ที่หลงใหลในแฟชั่น ขณะเดียวกันก็มีความสนใจในเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งทุกองค์ประกอบของสมาร์ทโฟนเครื่องนี้สามารถตอบโจทย์ดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
·        สไตล์ที่พกพาได้ในกระเป๋า กาแลคซี่ ซี ฟลิป เมื่อพับแล้วจะมีขนาดเล็กเท่ากระเป๋าสตางค์ จึงสามารถใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋าถือได้อย่างสบาย แม้จะมีขนาดกะทัดรัดพอดีมือ แต่เมื่อกางออกจะพบกับหน้าจอสวยงามขนาดใหญ่ 6.7 นิ้ว[2] นอกจากนี้ กาแลคซี่ ซี ฟลิป ยังโดดเด่นสะดุดตาด้วยเฉดสีที่ทันสมัย ดีไซน์โค้งมนสะท้อนความเรียบหรู เพิ่มเสน่ห์ด้วยรูปแบบการพับในแนวตั้งที่สามารถพับปิดได้อย่างนุ่มนวล
·        ครั้งแรกของโลกกับจอกระจกพับได้ หน้าจอแบบ Infinity Flex Display ของ กาแลคซี่ ซี ฟลิป มาพร้อม Ultra Thin Glass (UTG) หรือนวัตกรรมแผ่นกระจกที่สามารถโค้งงอได้ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่คิดค้นโดยทีมวิจัยและพัฒนาของซัมซุง ช่วยให้จอภาพมีความเพรียวบาง มอบสัมผัสที่หรูหราและทันสมัยแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อนบนสมาร์ทโฟนพับได้ อีกทั้งกล้องหน้าของ กาแลคซี่ ซี ฟลิป ถูกออกแบบให้อยู่บริเวณกึ่งกลางด้านบน จึงไม่มีรอยบากบนหน้าจอมากวนใจ ด้วยสัดส่วนของจอที่ 21.9 : 9 กาแลคซี่ ซี ฟลิป ช่วยเพิ่มพื้นที่ให้เพลิดเพลินกับคอนเทนต์โปรดโดยเฉพาะคอนเทนต์ประเภทภาพยนตร์ในอัตราส่วนภาพที่ 21 : 9
·        กลไกบานพับแบบใหม่ กาแลคซี่ ซี ฟลิป ใช้กลไกบานพับแบบใหม่ที่เรียกว่า Hideaway Hinge ซึ่งเป็นผลงานออกแบบทางวิศวกรรมที่คำนึงถึงความสวยงาม ประกอบด้วยกลไก Dual CAM ขนาดเล็กที่ช่วยให้ทุกการพับเป็นไปอย่างนุ่มนวลและมั่นคง โดยสามารถกางออกและหยุดได้ตามองศาที่ต้องการเหมือนกับบนหน้าจอแล็ปท็อป ระบบบานพับ Hideaway Hinge ยังผสานการทำงานเข้ากับเทคโนโลยีระดับสูงของซัมซุง ในการใช้เส้นใยไนลอนที่พัฒนาขึ้นพิเศษเพื่อกำจัดสิ่งแปลกปลอมและฝุ่นที่เข้ามาในบานพับ



ประสบการณ์ครั้งใหม่บนสมาร์ทโฟนจอพับได้
กาแลคซี่ ซี ฟลิป ถูกออกแบบมาเพื่อเติมเต็มโมเดิร์นไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่ง ด้วยดีไซน์ตัวเครื่องที่สามารถพับได้หลายระดับ ไปจนถึงการใช้งานแบบแฮนด์ฟรี ทำให้ กาแลคซี่ ซี ฟลิป แตกต่างจากสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ
·    การใช้งานแบบแฮนด์ฟรี ดีไซน์ของ กาแลคซี่ ซี ฟลิป ช่วยทลายข้อจำกัดในการใช้งานสมาร์ทโฟน เพราะเมื่อตัวเครื่องสามารถกางออกได้ทุกองศาและตั้งวางได้ จึงสามารถใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ได้แบบโดยไม่ต้องใช้มือจับเครื่อง สามารถถ่ายเซลฟี่หรือวิดีโอแชทผ่านแอปพลิเคชัน Google Duo พร้อมเผยบรรยากาศรอบตัวและแสดงท่าทางได้มากกว่าที่เคย
·        โหมด Flex ซัมซุงร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับ Google ในออกแบบโหมด Flex ที่ออกแบบขึ้นพิเศษเพื่อรองรับคอนเทนต์บนดีไซน์จออันเป็นเอกลักษณ์ของ กาแลคซี่ ซี ฟลิป เมื่อกางหน้าจอออกและเครื่องอยู่ในแนวตั้ง (Free-standing) จอแสดงผลจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนโดยอัตโนมัติ ให้ผู้ใช้สามารถดูภาพหรือวิดีโอที่จอด้านบน และสามารถควบคุมคอนเทนต์เหล่านั้นที่จอด้านล่าง หรือขณะที่สตรีมคอนเทนต์ YouTube[3]  ในจอบน ก็สามารถค้นหาวิดีโออื่นๆ หรือเขียนคอมเมนต์ใต้วิดีโอได้พร้อมกันที่หน้าจอด้านล่าง 
·        ปฏิวัติวงการกล้องสมาร์ทโฟนกาแลคซี่ ซี ฟลิป สามารถตั้งวางเองได้ ผู้ใช้จึงสามารถบันทึกภาพได้สะดวกยิ่งขึ้นไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม จะตั้งเวลาเพื่อถ่ายภาพกรุ๊ปช็อต หรือถ่ายภาพกลางคืนก็สามารถทำได้ เป็นตัวช่วยในการสร้างคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดียด้วยภาพถ่ายจากมุมที่ดีที่สุดโดยไม่ต้องพึ่งพาขาตั้งกล้องหรือแม้กระทั่งใช้มือจับเครื่อง และเมื่อในขณะพับเครื่องพับก็สามารถถ่ายภาพเซลฟี่คุณภาพสูงได้อย่างง่ายดายด้วยกล้องหลัง นอกจากนี้ Night Mode ของ กาแลคซี่ ซี ฟลิป ยังสามารถถ่ายวิดีโอ Hyperlapse ในเวลากลางคืนหรือในที่มีแสงน้อยให้มีชีวิตชีวาได้โดยไม่ต้องพึ่งแฟลช อีกทั้งยังสามารถเพลิดเพลินไปกับการถ่ายวิดีโอในอัตราส่วน 16 : 9 ซึ่งเป็นขนาดที่ดีที่สุดสำหรับการอัพโหลดขึ้นบนโซเชียลมีเดีย
·        ไม่พลาดทุกการแจ้งเตือน ถึงแม้จะอยู่ในโหมดพับก็ไม่พลาดที่จะรับข้อความ สายโทรศัพท์ หรือการแจ้งเตือนต่างๆ และยังสามารถเช็ควัน เวลา และสถานะของแบตเตอรี่ ได้อย่างรวดเร็วผ่าน Cover Display[4] ด้านหน้าที่แสดงผลแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ สามารถรับสายได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเปิดตัวเครื่อง หรือตอบข้อความได้อย่างรวดเร็วเพียงแตะที่แถบ Cover Display แล้วเปิดเครื่อง
·        Multi-Active Windowใช้งานหลายแอปพลิเคชันพร้อมกันได้อย่างราบรื่นด้วยฟีเจอร์ Multi-Active Window เพียงลากและวางแอปพลิเคชันที่ต้องการใช้งานใน Multi-Window Tray ก็สามารถเลื่อนดูบทความแฟชั่นล่าสุดที่หน้าต่างบน และเลือกซื้อไอเท็มโปรดไปพร้อมๆ กันในหน้าต่างด้านล่าง[5]

กาแลคซี่ ซี ฟลิป มาในสี Mirror Purple และ Mirror Black เตรียมวางจำหน่ายครั้งแรกในประเทศไทย 200 เครื่องแรกในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 และจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 มีนาคม 2563 ในราคา 44,900 บาท

Galaxy Z Flip
หน้าจอ
จอหลัก
ขนาด 6.7 นิ้ว FHD+ Dynamic AMOLED Display (21.9:9) Infinity Flex Display ความละเอียด 2636 x 1080 425ppi
*ขนาดของหน้าจอวัดตามแนวทแยงมุมฉากโดยไม่รวมถึงมุมโค้งของขอบโทรศัพท์และรูกล้อง ทำให้มุมมองจอภาพจริงอาจมีพื้นที่เล็กกว่า
Cover Display
ขนาด 1.1 นิ้ว Super AMOLED Display ความละเอียด 300 x 112 303ppi
*ขนาดของหน้าจอวัดตามแนวทแยงมุมฉากโดยไม่รวมถึงมุมโค้งของขอบโทรศัพท์และรูกล้อง ทำให้มุมมองจอภาพจริงอาจมีพื้นที่เล็กกว่า
ตัวเครื่อง
พับปิด
73.6 x 87.4 x 17.3 มิลลิเมตร (Hinge) - 15.4 มิลลิเมตร (Sagging)
เปิดออก
73.6 x 167.3 x 7.2 มิลลิเมตร - 6.9 มิลลิเมตร (Screen)
*ความหนาของ Galaxy Z Flip เมื่อเปิดออก ไม่รวมกรอบของจอแสดงผลหลัก
น้ำหนัก
183 กรัม
รายละเอียดกล้อง
กล้องหน้า
กล้อง Selfie ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล Fixed Focus F2.4
ขนาดพิกเซล: 1.22 ไมครอน
มุมมองภาพ (FOV): 80 องศา
กล้องหลัง 2 ตัว
กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล Fixed Focus F2.2
ขนาดพิกเซล: 1.12 ไมครอน
มุมมองภาพ (FOV): 123 องศา
กล้อง Wide-angle ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล Super Speed Dual Pixel AF, OIS, F1.8
ขนาดพิกเซล: 1.4 ไมครอน
มุมมองภาพ (FOV): 78 องศา
ระบบกันสั่น OIS (Optical Image Stabilization) สำหรับกล้องมุมกว้าง
ดิจิทัลซูม 8x
บันทึกวิดีโอความละเอียดระดับ HDR10+
Tracking AF
หน่วยประมวลผล
7nm 64-bit Octa-Core Processor
  2.95 GHz (Maximum Clock Speed) + 2.41 GHz + 1.78 GHz
หน่วยความจำ
 8GB RAM หน่วยความจำภายใน 256 GB
*ขนาดของหน่วยความจำภายในตัวเครื่องอาจขึ้นอยู่กับ Pre-installed Software
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่คู่ขนาด 3,300 mAh (โดยทั่วไป)
*ความจุโดยทั่วไปของแบตเตอรี่ถูกทำการทดสอบโดยแล็บภายนอก โดยวัดจากความจุโดยเฉลี่ยจากค่ามาตรฐานภายใต้ IEC 61960 โดยคำนึงถึงค่าความคลาดเคลื่อนของการใช้งานแบตเตอรี่จากตัวอย่าง ความจุโดยต่ำสุดของแบตเตอรี่สำหรับ Galaxy Z Flip อยู่ที่ 3200 มิลลิแอมป์ โดยอายุการใช้งานของแบตเตอรี่นั้นขึ้นอยู่กับเครือข่าย ลักษณะการใช้งาน และปัจจัยอื่นๆ
การชาร์จ
รองรับการชาร์จเร็วทั้งการเชื่อมต่อสายและการชาร์จแบบไร้สาย
รองรับฟีเจอร์ PowerShare
*การชาร์จผ่านสายรองรับบนสายชาร์จแบบ QC2.0 และ AFC และ การชาร์จแบบไร้สายรองรับบน WPC
*Wireless PowerShare รองรับการใช้งานร่วมกับโทรศัพท์มือถือซัมซุง หรือแบรนด์อื่นที่รองรับ Qi wireless charging โดยรุ่นที่รองรับได้แก่ Galaxy S20, S20+, S20 Ultra, Z Flip, Note10, Note10+, S10e, S10, S10+, Fold, S9, S9+, S8, S8+, S8 Active, S7, S7 edge, S7 Active, S6, S6 edge, S6 Active, S6 edge+, Note9, Note8, Note FE, Note5, และอุปกรณ์สวมใส่อื่นๆ อย่าง Galaxy Watch Active2, Galaxy Watch Active, Gear Sport, Gear S3, Galaxy Watch และหูฟัง Galaxy Buds โดย Wireless PowerShare จะไม่สามารถใช้งานได้ถ้าแบตเตอรี่ต่ำกว่า 30% และอาจจะไม่สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมบางชนิด เคส อุปกรณ์ของแบรนด์อื่นๆ หรือ อุปกรณ์สวมใส่ของซัมซุง นอกจากนี้ยังอาจส่งผลกระทบต่อ การรับสาย หรือ สัญญาณเครือข่าย โดยขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมการใช้งาน
ระบบปฏิบัติการ
Android 10
การเชื่อมต่อสัญญาณ
Enhanced 2X2 MIMO, 5CA,
ดาวน์โหลด LTE Cat.16 สูงสุดถึง 1.0Gbps
อัปโหลด LTE Cat.13 สูงสุดถึง150Mbps
ดาวน์โหลดสูงสุด 1.0Gbps / ดาวน์โหลดสูงสุด 150Mbps
*ความเร็วในการใช้งานจริงอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ ผู้ให้บริการเครือข่าย และสภาพแวดล้อมในการใช้งาน
การเชื่อมต่อ
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (2.4/5GHz),VHT80 MU-MIMO,256QAM
Bluetooth® v 5.0 (LE up to 2Mbps), ANT+, USB Type-C, NFC, Location (GPS, Galileo, Glonass, BeiDou)
*การใช้งาน Galileo และ BeiDou มีความจำกัด โดย BeiDou อาจไม่รองรับในบางประเทศ
ซิมการ์ด
รองรับ eSIM และ Nano SIM
*SIM card มีวางจำหน่ายแยกโดยเฉพาะ โดยอาจมีวางจำหน่ายแตกต่างกันขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศและ ผู้ให้บริการเครือข่าย โดย eSIM ต้องการ wireless service plan เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานบริการเครือข่ายโทรศัพท์โดยไม่ต้องมี nano-SIM eSIM มีวางจำหน่ายแตกต่างกันขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศและผู้ให้บริการเครือข่าย กรุณาตรวจสอบกับผู้ให้บริการเครือข่าย eSIM ในแต่ละประเทศ
การชำระเงิน
Samsung Pay (Link)
Credit และ debit cards: supports MST หรือ/และ NFC, Prepaid card, Global remittance, Transit, Memberships, Gift cards, Rewards
*มีให้บริการเฉพาะในบางประเทศ โดยฟีเจอร์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ และผู้ให้บริการเครือข่าย
เซ็นเซอร์
Capacitive Fingerprint sensor (side), Accelerometer, Barometer, Gyro sensor, Geomagnetic sensor, Hall sensor (digital, analog), Proximity sensor, RGB Light sensor 
ระบบยืนยันตัวตน
รูปแบบการปลดล็อค: แพทเทิร์น (pattern), พิน (PIN), พาสเวิร์ด (password)
รูปแบบการปลดล็อคแบบ Biometric: เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือ, ระบบจดจำใบหน้า
*ระบบจดจำใบหน้าสามารถใช้ได้กับกล้องหน้าเมื่อเปิดเครื่องออก
ระบบเสียง
Mono speaker
ระบบเสียงรอบทิศทางสำหรับบลูทูธ และหูฟัง ด้วยเทคโนโลยี Dolby Atmos (ประกอบด้วย Dolby Digital, Dolby Digital Plus)
รองรับ UHQ 32-bit &DSD64/128
PCM: Up to 32 bits, DSD*: DSD64/128

ไฟล์เสียงที่รองรับ: MP3, M4A, 3GA, AAC, OGG, OGA, WAV, WMA, AMR, AWB, FLAC, MID, MIDI, XMF, MXMF, IMY, RTTTL, RTX, OTA, APE, DSF, DFF

บลูทูธ
Dual Audio: เชื่อมต่อ อุปกรณ์บลูทูธ 2 เครื่องเข้ากับ Galaxy Z Flip เพื่อเล่นเสียงผ่านอุปกรณ์ทั้ง 2 เครื่องพร้อมกัน

Scalable Codec: รองรับการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธในสภาวะที่มีเสียงรบกวนจาก คลื่นความถี่วิทยุโดยรอบ

การบันทึกเสียง
คุณภาพของการบันทึกเสียงถูกพัฒนาด้วย High AOP Mic ที่ช่วยลดเสียงรบกวนในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง
* DSD64 และ DSD128 playback ถูกจำกัดแตกต่างกันไปในแต่ละรูปแบบของไฟล์
* อุปกรณ์ 2 เครื่องที่เชื่อมต่อบลูทูธ อาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อย
* ปรากฎในอุปกรณ์บางชิ้นที่ผลิตโดยซัมซุงและ AKG
* AOP: Acoustic Overload Point
การถ่ายวิดีโอ
ไฟล์วิดีโอที่รองรับ
MP4, M4V, 3GP, 3G2, WMV, ASF, AVI, FLV, MKV, WEBM
การเชื่อมต่อกับ TV
แบบไร้สาย: Smart View (screen mirroring 1080p at 30fps)
ระบบรักษาความปลอดภัย
Knox platform: การตรวจสอบและป้องกันแบบเรียลไทม์
การป้องกันไวรัสและมัลแวร์ (โดย McAfee)
Secure Folder: พื้นที่ปลอดภัยบนอุปกรณ์ที่ช่วยเก็บและปกป้องเนื้อหา อย่าง แอปพลิเคชัน รูปภาพ หนัง และไฟล์ส่วนตัว
*ผู้ให้บริการโซลูชันป้องกันไวรัสและมัลแวร์อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ
อุปกรณ์ในกล่อง
Galaxy Z Flip, สายส่งข้อมูล, อแดปเตอร์พกพา, Ejection Pin, อุปกรณ์แปลงพอร์ต USB (OTG), คู่มือเริ่มต้นการใช้งาน, เคสใส, หูฟัง โดย AKG (USB Type-C)
*อุปกรณ์ อย่าง เคส อาจไม่มีในกล่องขึ้นอยู่กับรุ่นที่ซื้อและประเทศที่อยู่อาศัย รวมไปถึงสีของแพ็คเกจและเคสอาจแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสีของสมาร์ทโฟน


[1] ต้องมีความเร็ว 5G ที่เหมาะสมสำหรับทั้งสองอุปกรณ์
[2] ขนาดของหน้าจอวัดจากแนวเส้นทแยงมุม ซึ่งพื้นที่แสดงผลจริงอาจมีขนาดเล็กกว่าเนื่องด้วยมุมโค้งและรูกล้องบนจอ
[3] สามารถใช้งาน YouTube ในโหมด Flex ได้เร็วๆ นี้ผ่าน Android Support Library
[4] ความต่อเนื่องของโหมด App Continuity รองรับในบางแอปพลิเคชัน โดยจะสามารถรองรับแอปพลิเคชันอื่นๆ ได้เร็วๆ นี้
[5] สามารถใช้งานได้ในบางแอปพลิเคชัน

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.