รีวิว Mi 11 Ultra นี่แหล่ะมือถือเรือธงสูงสุดของ XIAOMI แต่ว่า ไม่มีขายในเมืองไทยแล้ว(เฉพาะเครื่องศูนย์นะ)




Mi 11 หลายคนคิดว่ามันคือที่สุดแล้วแต่ที่จริงมันมี Mi 11 Ultra ที่เป็นที่สุดของที่สุดกว่าออกมา และมันดีจริงแค่ไหน เรามาดูกันกับรีวิวภาคบทความนี้ และตอนนี้ไม่มีขายแล้วอยากได้จะทำอย่างไรดี

ดีไซน์ของ Mi 11 Ultra

เริ่มต้นกับด้านหน้าของ Mi 11 Ultra จะมีความละเอียด WQHD+ พร้อมกับขนาดหน้าจอ 6.81 นิ้วแม้ว่าจะไม่ได้แตกต่างจากเดิมเท่าไหร่ แต่ว่าสิ่งที่ดีกว่าคือการเก็บรายละเอียดที่ดีกว่า และยังมาพร้อมกับความสว่างของหน้าจอ 1700 nits ส่วนกล้องหน้าจะมีความละเอียด 20 ล้านพิกเซล






ส่วนรอบตัวเครื่องจะมีการดีไซน์สวยงามขอบเครื่องจะเป็นแบบอลูมิเนียมสวยงาม ปุ่มต่างๆ จะอยู่ทางขวาทั้งหมด ส่วนบนก็ยังมีลำโพงด้านบน พร้อมกับ IR Blaster สำหรับสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้า ด้านล่างจะมีช่องใส่ซิมการ์ด, USB-C, ไมโครโฟน และ ลำโพงตัวเครื่อง

ด้านหลังจุดเด่นคือกล้องหลังจะมี Module ขนาดใหญ่พร้อมกับ หน้าจอ 1.1 นิ้วที่คมชัดมากมาใช้งาน และนอกจากนี้กล้องหลังจะมีเซนเซอร์มากมายและรองรับ Periscope ซูมได้ Optical 5X และไกลสุด 120X อย่างไรก็ตาม ภาพรวมน้ำหนักของเครื่องมันก็หนักเพราะด้านหลังจะเป็นเซรามิคนะครับ

ฟีเจอร์ของ Mi 11 Ultra เป็นอย่างไร3




ระบบปฏิบัติการของมือถือรุ่นนี้จะมาพร้อมกับ Android 11 มาพร้อมกับ MIUI 12 อาจจะได้อัปเดตในอนาคตเป็น MIUI 12.5 ที่ดีกว่าและมีลูกเล่นครบครัน ระบบความปลอดภัยใช้สแกนนิ้วแบบ Optical และสแกนใบหน้าส่องกล่องที่เซอร์ไพรส์กว่าคือ สแกนใบหน้าแบบปิดครึ่งหน้าได้

















ฟีเจอร์กล้องมาครบเครื่องแต่มีลูกเล่นที่เด่นกว่าไม่ว่าจะเป็นการถ่ายแบบโคลน, Effect Video และมีโหมดโปรแกรมพร้อมกับการจัดการเรื่องของมัลติแคมได้ที่ถ่ายรวมหรือแยกได้ด้วย และนอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการซูมได้ดี แต่มีข้อสังเกตคือ ถ้าเป็นรูปแบบของวิดีโอ 60 FPS จะไม่สามารถซูมตั้งแต่ต้นจนสุด (15 เท่า) ได้ ส่วนกล้องหน้าไม่ได้แตกต่างจาก Mi 11 สักเท่าไหร่

ประสิทธิภาพของ Mi 11 Ultra

หากย้อนกลับไปดูรีวิวของ Mi 11 เดินแล้วขุมพลังเดียวกัน แต่ว่า RAM ของรุ่นนี้ก็จะเยอะกว่าทำให้มันสามารถเป็นสเปกที่เรียกได้ว่ามาแบบจัดเต็มเหมือนกัน และในเรื่องของการใช้ Wi-Fi 6E ในเรื่องการเชื่อมต่อ ที่เหลือไม่ได้แตกต่างกันมา อย่างไรก็ตามการใช้งาน นำทางถือว่าดีอยู่


ส่วนแบตเตอรี่มีขนาด 5000 mAh อาจจะยังไม่ได้เยอะมากนัก แต่ว่าไม่สามารถใช้งานได้นานข้ามวันอย่างน้อยเกิน 10 ชั่วโมงถ้าใช้หนักแต่ถ้าเล่นเกมยังไม่ถึงจุดเด่นของรุ่นนี้คือ มันชาร์จไฟได้เร็วถึง 67W ทั้งแบบสายและไร้สายครับ

ความรู้สึกหลังลองใช้งาน



มือถือรุ่นนี้น้ำหนักถือว่าเยอะเอาเรื่องถึง 234 กรัม แต่การออกแบบถือว่าสมดุลใช้ได้เลยครับ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับด้านหน้าที่มีดีไซน์เดียวกับ Mi 11 แต่มีราคาไม่แพงเกินไป

ส่วนสเปกของเครื่องใช้ Snapdragon 888 มาพร้อมกับ RAM 12GB / ROM 256GB ถือว่าเยอะอยู่ และยังรองรับ Wi-Fi 6E ด้วยนะ

กล้องนั้นดันสุดๆ เซนเซอร์ 1 นิ้ว กว้างสุด ซูมไกลสุด และมาพร้อมกับสเปกที่เรียกได้ว่าจัดเต็มอยู่เหมือนกัน การเก็บรายละเอียดถือว่าทำได้ดีเลย แต่ว่าการซูมกับภาพวิดีโอ 60 FPS ทำได้แค่ การกดระยะกล้องเท่านั้น เฮ้อ!!! แต่ 30 FPS ทั้ง 4K, FHD พอประมาณ

อย่างไรก็ตามแบตเตอรี่ขนาด 5000 mAh อย่างว่าเรือธงใช้หมดวันได้ก็เก่งแล้ว แต่ชาร์จไฟได้เร็ว 67W ทั้งสายและไร้สาย

คุ้มค่าหรือไม่หากจะเลือกซื้อ



Mi 11 Ultra เป็นเรือธงที่มาพร้อมกับราคา 33,990 บาท ถือว่าเป็นมือถือที่มีราคาพลิกความคาดหมายอย่างมากเพราะในยุโรปนั้นถือว่าราคาพอกันกับมือถือที่มีราคาแพงกว่านั้น แต่คุณได้ราคาถูกกว่าและวัสดุเป็นเซรามิค และยังมาพร้อมกับ Android 11 ที่คาดว่ายังคงไปต่อไกล แต่ว่า MIUI คือเรื่องที่น่าเป็นห่วงอยู่นิดหน่อย แต่น่าเสียดายที่บอกว่า มันไม่มีขายในเมืองไทย เพราะมันขายวันที่ 5 พฤษภาคม ทำให้รู้ว่าเครื่องนั้นขายหมดไปแล้วนั่นเอง



แล้วถ้าจะเลือกซื้อมือถือรุ่นนี้จะเอาตัวไหนดีนั่นคือ Galaxy S21 Ultra นั่นเองเพราะนี่คือมือถือที่มาแบบครบเครื่อง จบในตัวเหมือนกัน และถ้าเน้นงานถ่ายวิดีโอนี่เป็นอีกที่น่าใช้ด้วย

สุดท้ายแล้วนี่เป็นเรือธงที่บอกเลยว่า 100 เครื่องนี้อาจจะไม่มีอีกแล้วในประเทศไทย ใครถือว่าถือว่าโชคดีมากๆ ครับ

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.