อะโดบีพลิกโฉมเวิร์กโฟลว์การตลาดแบบ End-to-End ด้วยบริการใหม่ Sensei GenAI
ในงาน Adobe Summit
ซึ่งเป็นการประชุมด้านประสบการณ์ดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก อะโดบี ( Nasdaq:ADBE )
เปิดตัวนวัตกรรม Generative AI สำหรับ Adobe Experience Cloud ซึ่งจะช่วยให้องค์กรธุรกิจพลิกโฉมการนำเสนอประสบการณ์ให้แก่ลูกค้า ทั้งนี้มากกว่าหนึ่งทศวรรษที่อะโดบีนำเสนอความสามารถอัจฉริยะหลายร้อยรายการผ่าน Adobe
Sensei ภายในแอปพลิเคชันระดับองค์กรของอะโดบี เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถทำงานและทำงานร่วมกันในรูปแบบใหม่
ๆ การนำเอาความสามารถด้าน Generative AI มาใส่ไว้บนระบบคลาวด์ของอะโดบีนับเป็นวิวัฒนาการขั้นต่อไปของนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย
AI ของอะโดบี ซึ่งจะช่วยให้องค์กรธุรกิจต่าง ๆ ได้รับประโยชน์จากความเร็วและประสิทธิภาพที่เหนือชั้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ใน Adobe Experience Cloud
ลูกค้าจะสามารถเปลี่ยนย้ายไปมาได้อย่างราบรื่นระหว่างบริการต่าง ๆ ของ Sensei
GenAI รวมถึงฟีเจอร์ที่มีอยู่ภายในเวิร์กโฟลว์ของลูกค้า
อามิท อาฮูจา
รองประธานอาวุโสฝ่ายธุรกิจประสบการณ์ดิจิทัลของอะโดบี กล่าวว่า “อะโดบีมีประวัติที่ยาวนานในการพัฒนาศักยภาพของ
AI ที่ทำงานเหมือน co-pilot กับนักการตลาด เรามีวิสัยทัศน์ในการพัฒนา
Generative AI ที่ครอบคลุมทุกขั้นตอนของการจัดการประสบการณ์ลูกค้าอย่างครบวงจร
พร้อมด้วยระบบรักษาความปลอดภัยและการกำกับดูแลข้อมูลระดับองค์กรอย่างที่ลูกค้าคาดหวัง การเติบโตของธุรกิจขับเคลื่อนโดยประสบการณ์ของลูกค้า
ขณะที่ Generative AI คือเทคโนโลยีพื้นฐานที่จะเปลี่ยนแปลงและส่งผลกระทบต่อทุกแง่มุมของแบรนด์ที่เชื่อมต่อกับลูกค้า”
Sensei
GenAI คือเครื่องมือที่ทำงานแบบ co-pilot กับนักการตลาดและทีมงานฝ่ายประสบการณ์ลูกค้า
ในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
โดยไม่เพิ่มเวิร์กโหลด ฟีเจอร์ใหม่ที่ทรงพลังจะถูกรวมเข้าไว้ในแอปพลิเคชันต่าง ๆ เช่น Adobe
Experience Manager, Adobe Journey Optimizer, Adobe Real-Time Customer Data Platform, Customer Journey Analytics และ Marketo Engage โดยรองรับรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย
ตั้งแต่การวางแผนและการสร้างแอสเซ็ท ไปจนถึงการปรับแต่งแบบเฉพาะบุคคล และการจัดการประสบการณ์ของลูกค้า
ทีมงานจะสามารถควบคุมงานครีเอทีฟได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์
เพื่อให้แน่ใจว่าคอนเทนต์และประสบการณ์ต่าง ๆ จะมีความสอดคล้องกับแบรนด์
และข้อมูลเชิงลึกจากอะโดบีจะช่วยให้ทีมงานเข้าใจได้ว่ามีสิ่งใดบ้างที่โดนใจลูกค้า
Adobe Firefly ขับเคลื่อนการสร้าง
Image ใน
Adobe Experience Cloud
อะโดบีจะนำเอา Firefly
ซึ่งเป็นโมเดล Generative AI สำหรับงานครีเอทีฟ
ไปไว้ใน Adobe
Experience Cloud โดยตรง โมเดลแรกสุดของอะโดบี
จะได้รับการฝึกฝนบน Adobe Stock, คอนเทนต์ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้งานได้อย่างเปิดเผย
และคอนเทนต์สาธารณะที่ลิขสิทธิ์หมดอายุแล้ว โดยมุ่งเน้นที่รูปภาพและเอฟเฟ็กต์ข้อความ และสามารถสร้างคอนเทนต์ที่นำไปใช้งานเชิงพาณิชย์ได้อย่างปลอดภัย
Firefly จะรองรับการผลิตคอนเทนต์หลากหลายรูปแบบ
รวมถึงการปรับเปลี่ยนคอนเทนต์ที่ไม่จำกัดได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว และในอนาคต นักการตลาดจะสามารถฝึก Firefly โดยใช้ทรัพยากรของแบรนด์ เพื่อสร้างคอนเทนต์ตามสไตล์ของแบรนด์นั้น
ๆ
ใน Adobe Experience
Manager (AEM) Assets ซึ่งเป็นระบบจัดการดิจิทัลแอสเซ็ทอันดับหนึ่งที่องค์กรธุรกิจต่าง
ๆ เลือกใช้เพื่อจัดการไลบรารีรูปภาพ วิดีโอ และคอนเทนต์อื่น ๆ โดยแบรนด์ต่าง ๆ จะสามารถใช้ Firefly เพื่อเพิ่มความรวดเร็วการพัฒนาคอนเทนต์และปรับปรุงประสิทธิภาพได้อย่างมาก
ส่วน Adobe Express พร้อมด้วย Adobe
Firefly จะบูรณาการเข้ากับ AEM Assets โดยตรง และช่วยให้ทีมงานสามารถเปลี่ยนแปลงส่วนประกอบของภาพได้ทันที
เช่น สี วัตถุ และทิวทัศน์ พร้อมทั้งสร้างคอนเทนต์หลากหลายเวอร์ชั่นโดยอัตโนมัติสำหรับช่องทางต่าง
ๆ เช่น เว็บ มือถือ และอีเมล Firefly จะช่วยเพิ่มความรวดเร็วให้กับซัพพลายเชนด้านคอนเทนต์ของแบรนด์
โดยขับเคลื่อนการปรับแต่งแบบ wide-scale
personalization
ตัวอย่าง ผู้ค้าปลีกสามารถถ่ายภาพ
แล้วสร้างเวอร์ชั่นที่หลากหลายของภาพได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด (เช่น ปรับเปลี่ยนสีและพื้นผิวให้แตกต่างกัน) เพื่อนำไปใช้ในอี-คอมเมิร์ซ
นอกจากนี้ ในธุรกิจสื่อและบันเทิง ทีมงานจะสามารถใช้
Firefly เพื่อสร้างคอนเทนต์หลายร้อยรูปแบบโดยอัตโนมัติ เพื่อรองรับการทำตลาดภาพยนตร์และซีรี่ส์ทีวีใหม่
ๆ และด้วยนวัตกรรมใหม่ใน Adobe Experience Manager แบรนด์ต่าง ๆ จะได้รับทราบข้อมูลเชิงลึกที่มีประสิทธิภาพเกี่ยวกับคุณสมบัติต่าง
ๆ (เช่น สี วัตถุ ข้อความ) ที่โดนใจผู้บริโภคมากที่สุด รวมถึงคำติชมที่จำเป็น
เพื่อให้แน่ใจว่าคอนเทนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย Generative AI ช่วยสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจอย่างที่ต้องการ
ความสามารถของ Generative AI ที่ขับเคลื่อนด้วย LLM ใน Adobe Experience Platform
Sensei GenAI
จะช่วยให้แบรนด์ต่าง ๆ สามารถสร้างและปรับเปลี่ยนประสบการณ์แบบข้อความสำหรับทุกช่องทางการติดต่อกับลูกค้า
และใช้ประโยชน์จากโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model - LLM)
ต่าง ๆ รวมถึง ChatGPT ผ่าน Microsoft Azure OpenAI Service และ FLAN-T5 เพื่อตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของแต่ละธุรกิจ
โดยสอดคล้องกับแนวทางของแบรนด์ และข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า นวัตกรรมเหล่านี้รวมอยู่ใน Adobe Experience Platform
(AEP) ซึ่งนำเอาข้อมูลลูกค้าและคอนเทนต์ต่าง ๆ มารวมเข้าด้วยกัน โดยครอบคลุมทั่วทั้งองค์กรภายใต้รูปแบบภาษาเดียว
ชุดข้อมูลที่สมบูรณ์นี้จะช่วยให้แบรนด์ต่าง
ๆ สามารถฝึกโมเดล Generative AI โดยใช้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับลูกค้า และปรับแต่งเอาต์พุตสำหรับกรณีการใช้งานที่เฉพาะเจาะจงสำหรับแบรนด์นั้น
ๆ บริการ
Sensei GenAI จะเปลี่ยนวิธีที่แบรนด์โต้ตอบกับแอปพลิเคชันของอะโดบี รวมถึงการติดต่อกับลูกค้า
·
การสร้าง
Copywriting สำหรับโฆษณาและการตลาด: ใน Adobe Journey Optimizer ซึ่งสร้างขึ้นบน AEP และทำหน้าที่ผสานรวมประสบการณ์ผ่านหลากหลายช่องทาง
แบรนด์ต่าง ๆ จะสามารถแตะที่ Sensei GenAI เพื่อสร้างข้อความแบบต่าง ๆ
ได้ทันทีสำหรับแต่ละช่องทางการติดต่อกับผู้บริโภค เช่น อีเมล และการส่งข้อความไปยังมือถือ
รวมทั้งแก้ไขและปรับเปลี่ยนข้อความก๊อปปี้ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการเลือกน้ำเสียงและการระบุคีย์เวิร์ด
นอกจากนี้ แบรนด์ต่าง ๆ ยังสามารถแก้ไข copywritng บนเว็บไซต์ผ่านทาง AEM Sites
ซึ่งเปรียบเสมือนประตูดิจิทัลที่สำคัญในระบบเศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังเติบโต
·
ประสบการณ์การสนทนา
: ใน Marketo Engage
โซลูชั่นการตลาดอัตโนมัติที่ได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ชั้นนำที่ทำธุรกิจแบบ B2B
ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เช่น Cisco, Microsoft, IBM, Accenture, NVIDIA,
Honeywell และ ServiceNow เทคโนโลยี Sensei GenAI จะขับเคลื่อน Dynamic Chat และช่วยให้แบรนด์
B2B สามารถใช้อินเทอร์เฟซแบบใหม่ที่เปี่ยมประสิทธิภาพเพื่อดึงดูดลูกค้าเป้าหมายที่เข้ามาเยี่ยมชมพื้นที่ดิจิทัลของบริษัท
และสรุปข้อมูลการโต้ตอบสำหรับใช้ในกรณีที่พวกเขาติดต่อกลับเข้ามาอีกครั้ง
·
การกำหนดกลุ่มเป้าหมายและการดำเนินการ:
Adobe Real-Time Customer Data Platform ซึ่งสร้างขึ้นบน AEP และใช้สร้างโปรไฟล์ลูกค้าแบบเรียลไทม์
จะใช้ประโยชน์จาก Sensei GenAI เพื่อสร้างเซ็กเมนต์กลุ่มเป้าหมายโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแม่นยำอย่างเหลือเชื่อในการปรับแต่งแบบเฉพาะบุคคลสำหรับลูกค้าหลายล้านคน ด้วย Adobe Journey Optimizer แบรนด์ต่าง ๆ จะสามารถจำลองประสบการณ์ดังกล่าวโดยครอบคลุมทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ด้วยข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับข้อเสนอที่ดีที่สุดและช่องทางติดต่อสำหรับลูกค้า และด้วยความสามารถของ
Playbooks ทีมงานจะสามารถใช้ประโยชน์จากเทมเพลตสำเร็จรูป เพื่อสร้างสรรค์ไอเดียและทดสอบการดำเนินการต่าง
ๆ โดยใช้ภาษาของมนุษย์ ซึ่งจะลดระยะเวลาที่ใช้ในการส่งมอบประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้แก่ลูกค้า
·
การสร้างแคปชั่น: แบรนด์ต่าง ๆ ใช้ Customer Journey Analytics (CJA) เพื่อเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสบการณ์โดยรวมของลูกค้า
CJA ซึ่งสร้างขึ้นบน AEP ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลเชิงลึกผ่านช่องทางต่าง
ๆ และช่วยให้ทีมงานมองเห็นว่าผู้บริโภคพบเจออุปสรรคตรงจุดใดบ้าง หรือค้นพบโอกาสในการติดต่อสื่อสารกับผู้บริโภค
นอกจากนี้ เพื่อช่วยให้แบรนด์สามารถตอบคำถามได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
Sensei GenAI จะขับเคลื่อนการสร้างแคปชั่นแบบอัจฉริยะใน CJA ทั้งนี้ สำหรับการแสดงผลภาพ เช่น ตารางกลุ่มลูกค้า
(Cohort Table) และแผนภูมิแสดงการละทิ้งการดำเนินการของลูกค้า (Fallout
Chart) แบรนด์ต่าง ๆ จะได้รับคำอธิบายที่เป็นข้อความเกี่ยวกับประเด็นสำคัญ
ๆ ในทันที
Post a Comment