รีวิว ASUS ROG Phone 2 มือถือที่เกิดมาพร้อมกับการเล่นเกมโดยเฉพาะ ในงบ 3 หมื่นมีทอน

ROG Phone ขึ้นชื่อนี้ หลายคนบอกว่ามันต้องเป็นมือถือที่เล่นเกมอย่างเดียวไม่น่าโดดเด่นอะไร แต่สำหรับ ASUS ROG Phone 2 เครื่องนี้จะสร้างความแปลกใหม่กับทุกสิ่งที่คุณได้พบมาแน่นอน รีวิวนี้จะเฉลยว่ามันดีแค่ไหน

รูปลักษณ์หน้าตา

หน้าตาของ ASUS ROG Phone 2 ยังคงดุดันเหมือนเดิม มาพรอ้มกับหน้าจอขนาด 6.59 นิ้วเป็นแบบ AMOLED ความละเอียด 2340x1080 พิกเซล แต่การตอบสนองหน้าจอ 120 FPS หน้าจอไม่เต็มเพราะมีพื้นที่ให้เซนเซอร์, กล้องหน้า ลำโพงทั้งบนและล่าง

รอบตัวครื่องโลหะทั้งหมด ฝั่งข้างขวามาพร้อมกับ Air Tigger บนและล่างม ปุ่มเปิดปิดตัวเครื่องอยู่กลางเครื่องพอดี และปุ่ม ปรับระดับเสียงพร้อมกับไมโครโฟนของตัวเครื่องด้านขา้ง ฝั่งซ้ายเรียบและมีช่องเปิดสำหรับเสียบอุปกรณ์เสริม หรือจะเสียบชาร์จไฟผ่าน USB-C ก็ได้ และใส่ซิมการ์ดได้ที่ฝั่งนี้





บนสุดมีไมโครโฟนและเสีเสาอากาศ ล่างสุดมีไมโครโฟน 2 ช่องและมี USB-C และลำโพงตัวเครื่อง

ถัดมาทางด้านหลังเป็นการออกแบบเพื่อให้เครื่องสามารถระบายความร้อนผ่านช่องที่สามารถปลอดปล่อยความร้อนได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับโลโก้ ROG ที่เปลี่ยนสีได้, กล้องหลังคู่มี LED Flash พร้อมโลโก้ Republic Of Games มาให้

ฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ ASUS ROG Phone 2

ระบบปฏิบัติการของมือถือรุ่นนี้ที่เลือกใช้เป็น Android 9 Pie และมาพร้อมกับการตกตแต่ง 2 แบบคือ Pure Android และ ROG Phone ที่ดุดันขึ้น เลือกใช้ได้สะดวก ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ ยังคงเหมือนมือถือทั่วไป ส่วนความปลอดภัยสามารถใช้ได้ทั้งระบบสแกนนิ้วมือ และ สแกนหน้า

เครื่องมือต่างๆ เกี่ยวกับการเล่นเกมทั้ง Air Tigger ปรับปรุงจากเดิมทำให้มันตอบสนองเร็วขึ้น หน้าจอภาพแบบ 120Hz จะเหมาะกับบางเกม เล่นเกมได้ลื่นไหลตอบสนองดีได้ขึ้น และทั้งหมดควบคุมผ่านโปรแกรม Armoury Crate ทำงานเหมือนกับของ PC ปรับสเปกได้แบบขีดสุดจริง

เรื่องกล้องของ ASUS ROG Phone 2 เป็นอีกครั้งที่เปลี่ยนแปลงมาใช้กล้องหลัง 48 + 13 ล้านพิกเซล คมชัดสูงและเก็บรายละเอียดดีทั้งภาพกลางวันและกลางคืน แถมได้เลนส์มุมกว้าง



ส่วนการถ่ายวิดีโอ เซอร์ไพรส์กว่ากับความละเอีดย 4K และมีระบบกันภาพสั่นไหว แถมยังมี Motion Tracking มาให้ด้วย

กล้องหน้ารองรับความละเอียด 24 ล้านพิกเซล ปรับ Beauty Mode ได้และยังถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงอีกด้วย

ลองใช้อุปกรณ์เสริมของ ASUS ROG Phone 2

อีกความสำคัญที่ ASUS ROG Phone 2 จัดมาให้แบบเต็มๆ คือเรื่องของอุปกรณ์เสริมล่ะครับ เรียกได้ว่าขาดไม่ได้จะประกอบไปด้วย

Aero Active Fan Cooling ตัวช่วยการระบายอากาศ ชิ้นเล็กแค่นี้สามารถทำให้เครื่องเย็นลงได้และเสียบมาชาร์จไฟเสริมได้ด้วย

Kunai Gamepad จอยเสียบได้ทั้งแบบไร้สาย ผ่าน Bumper และเสียบตัวเครื่องได้โดยตรง

หน้าจอ Twin View Dock II เวลาใส่เช่นคุณเล่นเกม Asphalt 9 จะปรากฏจอล่างเป็นแผ่นที่และจอบนเป็นการเล่นเกมปกติ และยังสามารถต่อกับอุปกรณ์ Kunai Gamepad และยังมีแบตเตอรี่ในตัวเสริมอีก 5000 mAh เหมาะกับคนที่เล่นเกมนานๆ

และสุดท้าย WiGig อุปกรณ์รองรับ การเชื่อมต่อแบบ 802.11 ad ออกภาพจากเครื่องได้เลย ถือว่าอำนวยความสะดวกได้อย่างดี แต่ชิ้นนี้รับประกัน 1 ปี

ประสิทธิภาพของ ASUS ROG Phone 2

ไม่มีคำบรรยายนอกจากแรงมาก หากเข้าสู่ X Mode ไม่ว่าจะเป็นเกมไหมก็ยังให้ประสิทธิภาพดี และการทำงานทั่วไปไม่ได้แตกต่างกับมือถือทั่วไปมากนัก แต่ผมยังให้คะแนนว่ามันดี

การเชื่อมต่อยังไม่ได้แตกต่างจากมือถือทั่วไป แค่เพิ่มเรื่องของ 802.11 AD ทำให้การทำงานกับอุปกรณ์ WiGig ถือว่าดีเหมือนกันครับ

ส่วนแบตเตอรี่อึดมากถึง 6000 mAh ถือว่าเยอะเหมือนกัน และอึดมาก แถมยังติดตั้งกับ Twin View ก็จะเพิ่มไปอีก อย่างไรก็ตามระบบชาร์จไฟรองรับ 30W ถือว่าไวอยู่เหมือนกัน

ความรู้สึกหลังลอง

มันดีหลายเรื่องจนเรียกว่าการที่ ASUS เลือกที่จะไม่เอา Zenfone 6 มาจำหน่าย เลือกรุ่นนี้เป็นความคิดที่ถูกต้องเลยครับ มันดีจริง และได้สเปกท็อปจนหลายคน แทบมองหาแต่ราคาจะเป็นอย่างไร ต้องรอดูข้างล่าง

แต่ช้าก่อน มันไม่ได้จบในเรื่องชอบ เพราะสิ่งที่ไม่ชอบจะมีแค่เรื่องของระบบระบายความร้อนต้องอยู่ในห้องเย็นๆ ถึงจะทำงานได้จริง ถ้าเล่นกลางแจ้งแนะนำซื้อ Joy มาเพิ่มดีกว่า เครื่องมันร้อนจริง พัดลมยังเอาไม่อยู่เลยครับ

คุ้มค่าไหมถ้าจะเลือกเป็นเจ้าของ

ด้วยคุณสมบัติที่บอกไปทั้งหมดถือว่าเป็นอีกรุ่นที่สายเกมไม่ควรพลาดและมันตอบสนองได้ดีกว่าที่คิดเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ราคาของ ASUS ROG Phone 2 จะอยู่ที่

• ASUS ROG Phone 2 + พัดลม Active Areo Cooling = 29,990 บาท
• ASUS Kunai Gamepad ราคา 3,260 บาท (ปกติ 3,440 บาท)
• ASUS Twin View Dock ราคา 7,110 บาท (ปกติ 7,490 บาท)
• ASUS Sultcase Accessory ที่ประกอบไปด้วย Twin View Dock, Kunai Gamepad, เคส Lighting Armor Case เรืองได้, ASUS WiGig Display, Mobile Dock Display และกระเป๋าคาดด้านข้างใส่มือถือ ราคาทั้งหมด 27,990 ลดเหลือ 25,190 บาท

เนื่องจากสเปกไทยค่อนข้างให้สเปกสูงราคาที่เห็นอาจจะใกล้เคียงคู่แข่ง แต่อย่างน้อยถ้าเล่นเกมหนักผมยังแนะนำซื้อรุ่นนี้ก็ยังคุ้มค่าอยู่ครับ