รีวิว Huawei P40 Pro มือถือผู้ปฏิวัติเรื่องกล้องของวงการมือถือในปี 2020

การเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดของ Huawei P40 Series ของ Huawei ก็ได้สร้างมาตรฐานของกล้องมือถือมากมายวันนี้ในี่สุดก็ได้ทดลองใช้กับมือถือรุ่นนี้กับ Huawei P40 Pro ซึ่งเรามาดูกันว่า จะคุ้มค่าหรือไม่ หากจะเลือกเป็นเจ้าของ



รูปร่างหน้าตาของ Huawei P40 Pro



เริ่มต้นกับหน้าตาของเครื่องรุ่นนี้กับหน้าจอขนาด 6.58 นิ้วที่มีขนาดของเครื่องเล็กกว่าในกลุ่มเรือธงด้วยกันแต่ก็ยังคงได้ความละเอียดมากถึง 2640x1200 พิกเซล และโค้งมนลงมาด้วย และส่วนบนสุดมีกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซลติดตั้งกับเซนเซอร์ เราสามารถตั้งปิดติ่งได้ แต่ขอบจะใหญ่มาก







รอบตัวเครื่องจะมาพร้อมกับวัสดุโลหะรอบตัวแบ่งระหว่างขอบหน้าจอโค้งด้วยกัน ขอบตัวเครื่องฝั่งซ้ายไม่มีปุ่มอะไร ส่วนฝั่งขวาจะมาพร้อมกับปุ่มปรับระดับเสียง, ปุ่ม เปิด, ปิดตัวเครื่องมาให้ และยังมาพร้อมกับไมโครโฟนตัวที่ 2 ที่อยู่ด้านบน, อินฟราเรดสำหรับสังเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนล่างสุดมาพร้อมกับ USB-C, ไมโครโฟน, ลำโพงเครื่อง, ช่องใส่ซิมการ์ด Nano SIM และอีกช่องสามารถใส่ Nano Memory ได้ และถ้าใส่ไม่พอก็จะรองรับ e-SIM



ส่วนด้านหลังเครื่องจะมาพร้อมกับกล้องหลัง 4 ตัวด้วยกัน และครอบด้วยเลนส์ Leica การออกแบบจะคล้ายกับ P30 Pro แต่กล้องนูนน้อยกว่าแบบชัดเจน ทั้งนี้ Huawei P40 Pro จะกันน้ำในแบบ IP68 และกล้องหลังยังมีไมโครโฟนอีกตัว

และนอกจากนี้ยังมีให้เลือกทั้งหมด 3 สีคือ เงิน Sliver Frost, ทอง Brush Gold, และสีน้ำเงิน Deepsea Blue

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจในตัว Huawei P40 Pro



สำหรับระบบปฏิบัติการของ Huawei P40 Pro ใช้พื้นฐานเป็น Android 10 ครอบทับด้วย EMUI 10.1 ที่เพิ่มลูกเล่นเช่นนาฬิกาแบบ 3D ในโหมด Always On Display, Mee Time, คำสั่งเสียง Ceilo เป็นต้น ส่วนระบบความปลอดภัยก็มีทั้งสแกนนิ้วที่เร็วและ สแกนใบหน้าแบบ 3D

ส่วนระบบเสียงก็มีการเพิ่มคุณภาพมากขึ้นผ่าน Huawei Histen แต่น่าเสียดายยังมีลำโพงอันเดียว ส่วนหน้าจอสีสวยคมชัดและมีค่า Refresh Rate ที่น้อยเพียง 90Hz อาจจะไม่ได้ทัดเทียบมกับเรือธงตัวอื่นแต่ผมว่าใช้ได้แล้ว













สำหรับการถ่ายภาพด้วยกล้องหลังทั้งหมดของ Huawei P40 Pro มีทั้งหมด 4 ตัวด้วยกันประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล F1.8 เซนเซอร์รับสาแบบ RYYB เปลี่ยนแปลงเซนเซอร์ใหญ่ขึ้นทำให้ถ่ายภาพกลางคืนได้อย่างสบายๆ กล้องตัวที่ 2 40 ล้านพิกเซล แบบ Ultra Wide แต่อัตราส่วน 3:2, กล้องซูม Telephoto รองรับการซูม Optical 5 เท่า, Hybrid Zoom 10 เท่า เรียกได้ว่าก็ทำได้ดีอยู่แล้ว ดังนั้นคุณภาพที่ออกมา ฟิลลิ่งจะให้อารมณ์สีที่จัดจ้างและถ่ายได้หลายแบบ และเลนส์สุดท้าย 3D ToF เช่นเคย



ความพิเศษของ Huawei P40 Series คือสามารถแต่งภาพได้และมีฟีเจอร์อัจฉริยะเกี่ยวกับการแต่งภาพ โดยลบเงา, ลบคน และปรับโทนต่างๆ ได้ดีเช่นเดียวกัน




ส่วนการถ่ายวิดีโอของ Huawei P40 Series ยังคงทำได้ที่ความละเอียดสูงสุดที่ 4K 60 FPS นั้่นเองและยังมีลูกเล่น Super Slowmotion ที่ถ่ายได้ 7,680 FPS



สำหรับกล้องหน้าของ Huawei P40 Pro และ P40 Series ให้ความละเอียด 32 ล้านพิกเซลเท่ากันและมีเซนเซอร์วัดความลึกตื้นด้วย และมี Auto Focus มาให้ด้วยครับ รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K และ มี Beauty Mode ให้

ประสิทธิภาพของ Huawei P40 Pro





สำหรับคะแนนประสิทธิภาพ ดีขึ้นกว่า Mate 30 Pro เล็กน้อยจนเรียกได้ว่าไม่แตกต่างกันเลยก็ว่าได้ นี่ถือว่าเป็นอีกมือถือรุ่นหนึ่งที่ยังคงทำผลงานได้ดีเกี่ยวกับคะแนนประสิทธิภาพและการเล่นเกม






ส่วนเรื่องของการเชื่อมต่อรุ่นนี้รองรับ WiFi 6, Bluetooth 5.1, และ 5G, 4G LTE ครบครันการลองใช้นำทางถือว่าสอบผ่านสบายๆ ครับ



แบตเตอรี่ของ Huawei P40 Pro ให้มาที่ขนาด 4200 mAh รองรับกำลังชาร์จไฟที่ 40W แบบสายและ รองรับระบบชาร์จไฟไร้สาย 27W และเมื่อใช้งานจริงก็ให้ผลลัพธ์ที่ดี โดยคะแนนประสิทธิภาพแบตฯ อยู่ที่ 8:50 ชั่วโมงแต่ถ้าใช้งานหนักๆ ก็สามารถหมดได้ในวันเดียว

ความรู้สึกหลังทดลองใช้ Huawei P40 Pro



ขอแตกออกเป็น 3 ประเด็นตั้งแต่รูปร่างหน้าตา อาจจะไม่ได้ว้าวเพราะการเปลี่ยนแปลงมาก แต่ขอบของจอที่โค้งแต่มีขอบรับทำให้สัมผัสหน้าจอได้ดีมากขึ้น ตัวเครื่องบางลงจาก P30 Pro โดยปกติ เรียกได้ว่ามือถือรุ่นนี้ออกแบบใหม่ได้ดี และส่วนกล้องใหญ่โตแบะออกแบบได้สวยงามมากขึ้น

ฟีเจอร์ของเครื่องการอัปเกรดเล็กน้อยของ EMUI 10.1 แม้ว่าจะไม่ได้มี Google แต่ก็มี Software ที่ครบครันทำให้คุณใช้งานได้ แต่ถ้าไม่พอก็โหลด APK ได้ ซึ่งเทคนิคในการเลือก APK อย่างไรให้ปลอดภัยเดียวจะนำเสนอในภายหลัง แต่ที่ชอบสุดคือฟีเจอร์ Golden Snap ที่แก้ไขภาพได้มากมายตั้งแต่ลบคน, ลบเงา สะท้อนของกระจกเป็นต้น

แต่ประสิทธิภาพนั้นไม่ได้แตกต่างจาก Mate 30 Pro การทำงานโดยรวมถือว่าลื่นไหลนะครับ

อย่างไรก็ตามจุดที่ยังไม่ชอบก็ยังคงมีคือการติดฟิล์มนั้นยากเพราะจอโค้ง, ลูกเล่นของ Golden Snap บางครั้งยังไม่เนียนเท่าที่ควร และถ้าใช้หน้ากก็กินไฟนะครับ

คุ้มค่าหรือไม่หากจะเลือกเป็นเจ้าของ Huawei P40 Pro



มาถึงจุดนี้แล้วก็คงต้องมาสรุปแล้วว่า Huawei P40 Pro ในราคา 31,990 บาทคุ้มหรือไม่ ถา้คุณคิดว่าต้องการนำมือถือที่เน้นเรื่องการถ่ายภาพและใช้งานจริงได้ยาวนาน และต้องการฟีเจอร์เกี่ยวกับกล้องเยอะ นี่ก็เป็นทางเลือกที่ดี แต่ Huawei เองก็ไม่ได้ใช้สเปกที่ใหม่มาก แต่การทำงานครบและรองรับ 5G ได้ นี่ก็เป็นอีก มือถือที่ไว้ใจได้

แล้วถ้าเทียบกับตระกูลอย่าง P40 ที่ราคาถูกกว่าเกือบหมื่น ก็ต้องบอกว่าความแตกต่างจะอยู่ที่เลนส์ Telephoto ที่ให้น้อย และหน้าจอไม่โค้ง นี่ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจครับ แต่ถ้าใครอยากได้กล้องซูมเยอะ อาจจะต้องรอรุ่น P40 Pro Plus ที่จะเผยโฉมในเดือน มิถุนายน ที่จะถึงนี้ กับบอดี้เซรามิค ราคาต้องลุ้นต่อไปครับ

ส่วนเมื่อเทียบกับคู่แข่งการที่ไม่มี GMS อาจจะเป็นจุดอ่อนก็จริงแต่ถ้ามองแล้วขาดแค่โปรแกรมนำทาง และคาดว่าอนาคตหากมีการจับมือกับ Google อีกครั้งก็มีสิทธิ์ที่จะเห็น Apps ของ Google อีกครั้งครับ

ไม่มีความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.